ตัดปีกจมูก (Alar Reduction)
จมูกสวยดูดีโดยไม่ต้องเสริม ด้วยบริการตัดปีกจมูก (Alar Reduction) เหมาะสำหรับท่านที่กำลังประสบปัญหา ปีกจมูกใหญ่ หนา ดูบาน เป็นร่อง ไม่เท่ากัน สามารถใช้เทคนิคนี้เพื่อปรับรูปทรงจมูก ให้ดูเล็กลง แผลหายเร็ว ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น พร้อมใส่ใจทุกขั้นตอน ภายใต้การดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จากโรงพยาบาลมาสเตอร์พีซสำหรับท่านใดที่รู้สึกว่ารูปร่างของปีกจมูกกำลังเป็นปัญหา โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ สามารถแก้ไขจมูกให้มีรูปทรงที่เล็กลงได้ โดยทั่วไปแล้วการผ่าตัดบริเวณปีกจมูกเมื่อแผลหายแล้วมักจะมองไม่เห็นรอยแผลเป็น
ตัดปีกจมูกอย่างเดียวไม่ต้องเสริมก็สวยได้?
ผู้ที่ต้องการตัดปีกจมูกไม่จำเป็นต้องเสริมจมูกเสมอไป เพราะหากจมูกโด่งอยู่แล้วแต่มีปีกจมูกบานกว้างเพียงแค่ตัดบริเวณปีกจมูกอย่างเดียวไม่จำเป็นต้องเสริมจมูกเลยและหลังผ่าตัดรูปทรงจมูกก็จะดูสวยงามสมส่วนขึ้น
ข้อดีของการตัดปีกจมูก (Alarplasty)
- เป็นการปรับรูปทรงจมูกที่มีลักษณะกว้างให้ดูเล็กลง รูปทรงของจมูกได้สัดส่วนสวยงามมากยิ่งขึ้น ดูมีมติเป็นแนวโค้งมนเข้าหาจมูก
- เพื่อลดขนาดรูจมูก เหมาะสำหรับคนที่รูจมูกดูใหญ่แบนเป็นแนวนอน ทำให้รูปทรงจมูกบริเวณปีกเรียวเล็ก เป็นทรงหยดน้ำ มีแนวเฉียงเข้าแกนกลาง สวยสะดุดตาอย่างเห็นได้ชัดเจน
- ช่วยให้ฐานจมูกฝั่งซ้ายและขวามีขนาดเท่ากัน เหมาะสำหรับท่านที่มีปัญหาปีกจมูกข้างใดข้างหนึ่งบานใหญ่กว่าอีกข้าง บริการนี้จะช่วยปรับให้สมดุลทั้งข้างซ้ายและข้างขวา ให้รับกับสันจมูก ใบหน้าดูสมมาตร สมส่วน มีสัดส่วน ไม่เบี้ยว
- เสริมบุคลิกภาพ เสริมความมั่นใจ ช่วยให้การถ่ายรูปดูมีมิติที่สวยงาม
- ข้อดีสำหรับท่านที่กำลังมีปัญหาปีกจมูกดูหนา ดูกว้าง บริการนี้จะช่วยให้ ดูบางและแคบลง ดูเป็นธรรมชาติ
ตัดปีกจมูกควรทำพร้อมกับเสริมจมูกเลยหรือไม่?
การตัดบริเวณปีกจมูกเพียงอย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้จมูกดูโด่งขึ้น แต่สามารถทำให้จมูกได้รูปทรงที่สวยงามและชัดเจนขึ้นได้ (โดยไม่เกี่ยวข้องกับความโด่งของสันจมูก) ถ้าต้องการให้จมูกโด่งขึ้นจะต้องทำการเสริมจมูกร่วมด้วย ซึ่งส่วนมากนิยมผ่าปีกจมูกไปพร้อมๆกัน เพื่อจะได้ไม่ต้องผ่าตัดหลายครั้ง
ผู้ที่เหมาะสำหรับศัลยกรรมตัดปีกจมูก
สำหรับสรีระของร่างกาย ไม่ว่าจะส่วนไหนก็ตาม แต่ละท่านจะมีองศาและมุมที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงบริเวณปีกจมูก ซึ่งก็มีรูปแบบ รูปทรงที่ต่างกัน การทำศัลยกรรมประเภทนี้ จึงสามารถช่วยปรับปรุงแก้ไขให้มีรูปทรงที่ดูดี ดูสวย และยังสามารถช่วยเสริมภาพรวมของใบหน้า ให้ดูดีมากยิ่งขึ้น โดยบริการนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหา ดังนี้
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเนื้อบริเวณปีกจมูกใหญ่เกินไป
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเนื้อบริเวณปีกจมูกหนาเกินไป
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาภาพรวมของบริเวณปีกจมูก ทั้งด้านซ้ายด้านขวาดูแล้วไม่เท่ากัน ส่งผลทำให้จมูกมองแล้วดูเบี้ยว ไม่สมส่วน
- สำหรับท่านที่มีปัญหา รูจมูกดูใหญ่ ดูบานคล้ายกระทิง สามารถปรับแก้ไขในส่วนนี้ได้
- สำหรับท่านที่ปลายจมูกโด่งดูเป็นทรง แต่ยังไม่มีมิติ เพราะตรงปีกจมูกไม่เข้าทรง บริการนี้สามารถช่วยได้
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- แจ้งให้แพทย์ทราบข้อมูลโรคประจำตัว ยาโรคประจำตัว, ประวัติการผ่าตัด, ประวัติการแพ้ยา, ประวัติการแพ้อาหาร (หากมีประวัติการรักษาจากโรงพยาบาล ควรนำมาในวันปรึกษาด้วย) หรือแจ้งก่อนวันจองคิวผ่าตัด
- ผู้ป่วยที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือด และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ยาแก้ปวดกลุ่ม หรือยาโรคประจำตัวอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการผ่าตัดหรือแจ้งก่อนวันจองคิวผ่าตัด
- งดทานวิตามินอาหารเสริมต่าง ๆ ทุกชนิด เช่น วิตามินอี, น้ำมันปลา, ใบแปะก๊วย เมล็ดองุ่น โสม ฯลฯ ต้องหยุดยาอย่างน้อย 1 เดือน
- ควรสระผมให้สะอาดเรียบร้อยก่อนวันผ่าตัด และไม่แต่งหน้าในวันผ่าตัด งดใส่คอนแทคเลนส์ในวันผ่าตัด หากมีปัญหาด้านสายตาให้สวมแว่นสายตาแทน
- งดใส่เครื่องประดับทุกชนิด เช่น ต่างหู สร้อย แหวน จิลต่าง ๆ บนร่างกายในวันผ่าตัด (หากถอดออกไม่ได้ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ)
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัด เนื่องจากสารที่อยู่ในบุหรี่มีผลลดปริมาณออกซิเจนในเลือดและทำลายเซลล์ที่จะซ่อมแซมการหายของแผล มีผลทำให้เลือดที่จะมาหล่อเลี้ยงบริเวณที่ผ่าตัดลดลง โดยมีโอกาสให้ผิวหนังที่ผ่าตัดขาดออกซิเจน ทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 วันก่อนผ่าตัด และต่อเนื่องอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- ก่อนการผ่าตัด คนไข้ต้องทำความสะอาดเล็บมือเล็บเท้าให้สะอาด งดการทาเล็บมือ, เล็บเท้า และงดการต่อเล็บทุกชนิด
- เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ควรตื่นเต้นมากเกินไป และควรทราบว่าหลังผ่าตัดย่อมเกิดการบวมช้ำบริเวณแผล และการเปลี่ยนแปลงของใบหน้า หรือบริเวณร่างกายที่ทำการผ่าตัด ซึ่งต้องใช้เวลาในการหายของแผลหรือความเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่
การดูแลหลังผ่าตัด
- หลังผ่าตัด 24 ชั่วโมง จะมีอาการบวมบริเวณใบหน้าบ้าง และอาจจะรู้สึกปวดบริเวณจมูก ให้รับประทานยาแก้ปวด และต้องรับประทานยาแก้อักเสบตามที่แพทย์สั่งให้หมด
- สำหรับอาการบวมหลังผ่าตัดถือเป็นเรื่องปกติ แต่โดยทั่วไป การผ่าปีกจมูก จะบวมไม่มาก ระยะเวลาการบวมประมาณ 3 – 5 วัน แต่อาจยุบบวมเร็วหรือช้ากว่านี้ได้ขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และรอยฟกช้ำอาจจะมีบ้างซึ่งจะค่อยๆ หายไปภายใน 1 – 2 สัปดาห์
- ในช่วง 2-3 วันแรก ควรหมั่นประคบเย็นบ่อย ๆ และนอนศีรษะสูง เพื่อช่วยลดอาการบวม
- หลังผ่าตัดไม่ควรให้แผลโดนน้ำอย่างน้อย 7 วัน หรือจนกว่าจะตัดไหม
การศัลยกรรมจมูกถือเป็นการทำศัลยกรรมอันดับต้น ๆ ของหนุ่มสาวชาวเอเชียเนื่องจากกรรมพันธุ์ของกลุ่มเหล่านี้มักมีฐานจมูกที่เตี้ย และปีกจมูกที่กว้าง จึงต้องมาทำการแก้ไขให้จมูกโด่งขึ้น และปีกจมูกดูแคบลง หากเพื่อน ๆ กำลังตัดสินใจในการเสริมจมูก แนะนำให้อ่านบทความนี้ก่อนผ่าตัดศัลยกรรมนะคะ
เพราะการตัดปีกจมูกเป็นศัลยกรรมที่ตัดแล้วตัดเลย หากได้ผลลัพธ์ที่ไม่พึงพอใจ ไม่เข้ากับใบหน้า จะไม่สามารถแก้ไขได้ วันนี้เราจึงได้รวบรวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับปีกจมูกประจำปี 2023 ไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ
ปีกจมูก คืออะไร อยู่ตรงส่วนไหน
ปีกจมูก จะอยู่บริเวณด้านข้างของสันจมูก นับตั้งแต่ปลายจมูกไปจนถึงปีกจมูกด้านข้าง เป็นอวัยวะที่เราใช้ในการหายใจนั่นเอง การที่ปีกจมูกกว้าง บาน หรือใหญ่จะไม่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ แต่อาจส่งผลต่อความสวยงามของใบหน้า และทำให้สาว ๆ หลายคนสูญเสียความมั่นใจได้ค่ะ เนื่องจากปีกจมูก อยู่ในส่วนกึ่งกลางของใบหน้า แม้เป็นเพียงองค์ประกอบเล็ก ๆ แต่หากปีกจมูกสมดุลรับกับใบหน้า ก็จะช่วยให้ดูดีมีมิติ ได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้นค่ะ
จมูกแบบไหนที่เรียกว่าบาน วิธีเช็คจมูกบาน
จมูกบานจะมีลักษณะรูปทรงคล้ายผลชมพู่ ปลายจมูกกลมใหญ่ เนื้อของปีกจมูกดูหนา สัดส่วนของปีกจมูกที่บาน ปีกจมูกจะเลยหัวตาออกไปค่อนข้างมาก รูจมูกกว้างชัด ทำให้จมูกดูไม่สมส่วนกับอวัยวะอื่น ๆ บนใบหน้า จึงทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกไม่มั่นใจในใบหน้าของตนเอง โดยสามารถเช็คจมูกบานได้จากวิธีเหล่านี่
- เช็คจากการส่องกระจก โดยสามารถมองด้วยตาว่าปีกจมูกของเราเลยหัวตาหรือไม่ หากเลยแสดงว่าเรามีปัญหาปีกจมูกบาน
- เช็คแบบใช้มือถือ โดยเซลฟี่หน้าตรงของตัวเอง จากนั้นวาดเส้นตรงตั้งแต่หัวตาลงมาจนถึงปีกจมูก ถ้าปีกจมูกเลยเส้นที่เราวาดขึ้นมาแสดงว่าเรามีปัญหาจมูกกว้างเช่นกันค่ะ
- เช็คแบบใช้ไม้บรรทัด โดยให้นำไม้บรรทัดทาบตั้งแต่หัวตา ลากมาจนถึงปีกจมูก ถ้าปีกจมูกเลยขอบไม้บรรทัด ควรเข้ามาพบคุณหมอเพื่อทำการแก้ไข เพราะนั่นแสดงว่าเรามีปัญหาปีกจมูกบานเช่นกันค่ะ
สาเหตุที่ปีกจมูกบาน ปีกจมูกใหญ่ มีอะไรบ้าง
ปีกจมูกบาน หรือปีกจมูกใหญ่ อาจเป็นปัญหากวนใจของใครหลาย ๆ คน แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการศัลยกรรมตัดปีกจมูก โดยศัลยแพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคนไข้มากที่สุด ปัญหาเหล่านี้เกิดได้จากหลายสาเหตุมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ
- เกิดจากผิวหนัง
หากบริเวณปีกจมูกทั้งสองข้างสามารถดึงหรือโกยขึ้นได้ แสดงว่ามีเนื้อบริเวณนั้นเยอะ หรือหนาจนเกินไป โดยสังเกตุได้จากปลายจมูกจะนิ่มกลม
- เกิดจากไขมันและกล้ามเนื้อปลายจมูกหนา
สังเกตได้จากเวลายิ้มแล้วปีกจมูกยกตาม แสดงว่ามีไขมัน และกล้ามเนื้อบริเวณปีกจมูกมาก หรือหนาจนเกินไป จนทำให้จมูกบานออกเวลายิ้ม
- เกิดจากกระดูกอ่อนปลายจมูกกว้าง
ถ้ากระดูกอ่อนบริเวณนี้ใหญ่ กว้าง มีความโก่งตัวไม่ได้รูปร่าง จะส่งผลต่อรูปทรงของปลายจมูก ทำให้ดูใหญ่ได้ ในกรณีนี้จะต้องผ่านการตรวจ และวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าเกี่ยวข้องหรือไม่
- สาเหตุจากกรรมพันธุ์
กรรมพันธ์ุเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่สามารถส่งผลมายังรุ่นถัดไปได้ หากมีพ่อ – แม่ที่จมูกเล็ก เนื้อจมูกน้อย หรือปีกจมูกบานใหญ่ ก็อาจทำให้จมูกของลูกมีลักษณะคล้ายคลึงกันได้ ซึ่งการศัลยกรรมตัดปีกจมูกจะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างแน่นอนค่ะ ทางที่ดีขอแนะนำให้คนไข้เข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ช่วยประเมินโครงสร้างของจมูกว่าควรปรับแก้แบบใดให้เหมาะสมกับใบหน้าของคนไข้นั่นเองค่ะ
ปีกจมูกบานใหญ่แก้ไขได้อย่างไรบ้าง
- การตัดปีกจมูก
เป็นการศัลยกรรมที่ให้ผลลัพธ์แบบถาวร ถือเป็นเทคนิคยอดนิยมที่คนมักเลือกทำสำหรับคนที่มีปีกจมูกที่บาน ที่ช่วยทำให้ปีกจมูก และรูจมูกมีรูปทรงที่สวยงามตามต้องการ แต่ก็มีความเสี่ยงถ้าแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญอาจจะก่อให้เกิดรอยแผลเป็น หรือมีอาการบวมตามมาได้หลังการผ่าตัด แต่การตัดปีกจมูกอาจไม่ได้เหมาะกับทุกคน ควรปรึกษาศัลยแพทย์ก่อนทำการตัดปีกจมูกด้วยนะคะ
- การโบท็อกซ์ปีกจมูก
สามารถทำได้เลยโดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด เหมาะกับคนที่ปีกจมูกไม่ได้บานมาก แต่มีปัญหาจมูกขยับเวลาพูด หรือหัวเราะ โดยการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน บริเวณปีกจมูกทั้ง 2 ข้าง เพื่อปรับรูปร่าง และรูปทรงของปีกจมูกให้เข้ากับโครงหน้าของคนไข้เพิ่มมากขึ้น เมื่อแสดงสีหน้าอาการปีกจมูกจะไม่บานออก การฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินจะทำให้กล้ามเนื้อมัดเล็กหยุดทำงาน และคลายตัวออกชั่วคราว ทำให้ปีกจมูกบานออกน้อยลง หรือแลดูปีกจมูกเล็กลงกว่าเดิมนั่นเอง โดยจะเริ่มเห็นผลภายใน 5 – 7 วัน และผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 3 – 4 เดือนต่อการฉีด 1 ครั้งค่ะ
- การร้อยไหมเก็บปีกจมูก
การร้อยไหมปีกจมูกสามารถทำให้ปีกจมูกดูแคบลงได้ ไม่ใช่เป็นการใช้ไหมดึงปีกจมูกโดยตรง แต่เป็นการใช้ไหมปรับยกสันจมูกให้ทรงดูคมชัดขึ้น ปีกจมูกที่บาน หรือกว้างกระชับขึ้น โดยที่ไม่ต้องผ่านการศัลยกรรมจมูก แต่อาจจะไม่เหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกเยอะ หรือปีกจมูกบานมาก ๆ แนะนำให้เสริมจมูกจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าค่ะ
- การดัดปลายจมูก
เป็นการฝึกเกร็งกล้ามเนื้อปลายจมูก จากการนวดร่วมด้วย โดยช่วยให้กระดูกอ่อน หรือกล้ามเนื้อบริเวณกระดูกเคลื่อนที่เบาๆ เพื่อปรับรับกับรูปหน้ามากยิ่งขึ้น แต่วิธีนี้จะใช้ระยะเวลาในการดัดปลายจมูกค่อนข้างนาน จึงไม่เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ภายในทันที
- การเสริมจมูก
โดยเฉพาะการเสริมจมูกด้วยเทคนิคแบบโอเพ่น โดยศัลยแพทย์จะผ่าเปิดโพรงจมูกเพื่อให้มองเห็นโครงสร้างภายในได้อย่างชัดเจน เพราะต้องเข้าไปเคลียร์ปัญหาของจมูกทั้งหมด ร่วมกับการทำหัตถการต่าง ๆ เช่น การเย็บอินเตอร์โดม การตอกฐานจมูก ฯลฯ ซึ่งจะทำให้จมูกดูพุ่งขึ้น และเรียวเล็กแบบธรรมชาติ เป็นการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดที่สุดค่ะ
สาเหตุของปัญหาปีกจมูกถึงไม่เท่ากัน
ปีกจมูกที่ไม่เท่ากันเกิดจากความแตกต่างในโครงสร้าง และลักษณะทางกายภาพบริเวณปีกจมูกของแต่ละบุคคล โดยสาเหตุที่ส่งผลทำให้ปีกจมูกมีขนาดไม่เท่ากันอาจรวมถึงปัจจัยดังนี้
- เกิดขึ้นเองตั้งแต่กำเนิดผ่านทางพันธุกรรม
บางครั้งปีกจมูก หรือลักษณะรูปทรงจมูกที่ไม่เหมือนกัน อาจมีปัจจัยจากทางพันธุกรรม ซึ่งสามารถส่งผลให้เกิดความแตกต่างในโครงสร้างของแต่ละบุคคลได้ค่ะ
- เกิดอุบัติเหตุหรือการศัลยกรรมจมูก
บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรือการทำศัลยกรรมในบริเวณที่เกี่ยวข้องกับปีกจมูก อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้าง และรูปร่างของปีกจมูก เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ปีกจมูกไม่เท่ากันได้นั่นเองค่ะ
- พฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง
พฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ปีกจมูก เช่น การสั่งน้ำมูกแรง ๆ หรือการแคะจมูกบ่อย ๆ เป็นต้น อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรูปร่างของปีกจมูก
- สภาวะทางภูมิคุ้มกัน
บางครั้งปีกจมูกที่ไม่เท่ากันอาจเกิดจากสภาวะทางภูมิคุ้มกัน เช่น การเจ็บป่วยเรื้อรังที่มีผลต่อการพัฒนาของปีกจมูก และระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ
ปีกจมูกลอกเกิดจากอะไร
อาการผิวหนังแห้งบริเวณปีกจมูก อาจมีอาการลอก ตกสะเก็ด หรือรอยแห้งแตกเล็ก ๆ โดยเฉพาะบริเวณจมูก ซึ่งสามารถสร้างความรำคาญใจ ความไม่มั่นใจได้ หากเอามือไปแงะ แกะ เกา อาจก่อให้เกิดอาการอักเสบ แดง เลือดไหล และติดเชื้อตามมาได้ในภายหลัง โดยสาเหตุที่ผิวบริเวณข้างจมูกลอกนั้นเกิดได้จากสาเหตุดังนี้
- โรค
โรคต่อมไขมันอักเสบ หรือโรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis) เป็นภาวะผิวหนังอักเสบจากต่อมไขมันในชั้นผิวหนัง ถือเป็นโรคเรื้อรัง มีลักษณะเป็นผื่นแดง มีอาการคันบริเวณผื่น และยังสามารถลุกลามไปบริเวณอื่นได้ด้วย มีหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ระดับฮอร์โมนที่แปรปรวน เชื้อยีสต์ หรือเชื้อราบางตัว เซ็บเดิร์มใช้ระยะเวลาในการรักษาที่นานให้หาย และยังสามารถกลับมาเป็นใหม่ได้อีกด้วย
- ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดผิวหน้ามีความเป็นด่างสูง
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าบางตัวมีฤทธิ์เป็นด่าง อาจทำให้ผิวหน้าไม่มีสมดุล ส่งผลให้เกิดอาการแห้งลอก และระคายเคืองได้ ให้หลีกเลี่ยงมาใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีค่า PH เป็นกลาง เพื่อรักษาสมดุลของผิวหน้า
- การใช้สารเร่งผลัดเซลล์ผิว จำพวก AHA, BHA
หากบริเวณปีกจมูกมีอาการแห้งลอก ให้งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA ไปก่อน เนื่องจากคุณสมบัติของ AHA, BHA มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ จะช่วยในเรื่องของการผลัดเซลผิว อาจทำให้บริเวณปีกจมูกมีอาการแห้งลอกมากกว่าเดิมได้
- ยาที่ใช้รักษาสิวบางชนิด
ยารักษาสิวที่มีส่วนผสมของ Isotretinoin เป็นยาในกลุ่มวิตามินเอ ใช้รับประทาน จะทำให้ผิวหนังมีอาการแห้ง หลุดลอก จะช่วยยับยั้งสาเหตุการเกิดสิว ไม่ควรซื้อยามาทานเองโดยเด็ดขาด ผู้ที่รับประทานยาตัวนี้ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ หรือยาทารักษาสิวจำพวกครีมเรตินอยด์ มีส่วนผสมที่เข้มข้น อาจทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคืองได้ ควรเริ่มต้นจากความเข้มข้นต่ำก่อน
- โรคประจำตัว
โรคภูมิแพ้ จะมีอาการจาม น้ำมูกไหล และคันจมูก เมื่อขยี้จมูกบ่อย ๆ อาจทำให้จมูกแห้งลอกได้
- อายุ
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ชั้นผิวหนังจะบางลง และสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ให้เกิดอาการผิวแห้งลอกบริเวณจมูกค่ะ
ปีกจมูกลอกแก้ไขได้อย่างไรบ้าง
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น
หากอาบน้ำอุ่น หรือน้ำร้อนจัดบ่อย ๆ และมากจนเกินไป อาจส่งผลให้ผิวแห้ง โดยเฉพาะจุดที่บอบบางอย่างบริเวณจมูก
- บำรุงผิวหน้าหลังอาบน้ำ
หลังจากอาบน้ำควรบำรุงผิวหน้าด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ทุกครั้ง ทั้งเช้า และเย็นอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิวจมูก
- ล้างหน้าบ่อยจนเกินไป
หลาย ๆ คนในระหว่างวันหากรู้สึกหน้ามัน หรือผิวหน้าสกปรก มักจะรีบไปล้างหน้าทันที การที่ล้างหน้าบ่อย ๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าดีนะคะ เพราะจะทำให้ผิวหน้าเกิดอาการแห้งลอกได้ง่าย เนื่องจากผิวสูญเสียน้ำมันธรรมชาติจากร่างกาย ทำให้ผิวหน้าขาดความชุ่มชื้น โดยปกติแล้วควรล้างหน้าไม่เกิน 2 – 3 ครั้งต่อวัน ในช่วงเวลาเช้า ก่อนนอน และหลังจากออกกำลังกายเสร็จ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
- ไม่ลอกสิวเสี้ยนบริเวณจมูกบ่อยจนเกินไป
การลอกสิวเสี้ยนบริเวณจมูกบ่อย ๆ ไม่เพียงแต่ทำให้ผิวบริเวณจมูก แห้ง ลอก แต่ยังทำให้เกิดแผลได้หากใช้ผิดวิธี อาจส่งผลให้เกิดอาการระคายเคืองมากกว่าเดิมได้ ฉะนั้นคนไข้ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ลอกสิวเสี้ยนมากกว่า 1 ครั้งต่อเดือน หรือให้เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเหมาะสมกับผิวพรรณของแต่ละคนค่ะ
- สครับผิวหน้าอย่างอ่อนโยน
การขัด หรือสครับผิวบริเวณผิวจมูกช่วยลดอาการหลุดลอกได้ แต่ควรเลือกใช้สครับที่เหมาะกับผิวแห้ง เนื้อสครับที่ละเอียด และมีส่วนผสมจากธรรมชาติ ใช้แล้วไม่ทำให้ผิวแห้งขึ้นมากกว่าเดิม เวลาสครับผิวควรขัดอย่างเบามือ เพราะผิวบริเวณปีกจมูกเป็นส่วนที่อ่อนโยนกว่าส่วนอื่น ๆ
โหงวเฮ้งของปีกจมูกที่ดีต้องเป็นแบบไหน
ปีกจมูกที่ดีควรมีเนื้อจมูกที่เต็ม ไม่ดูแห้งบาง เพราะปลายจมูกเปรียบเสมือนอ่างเก็บทรัพย์ ยิ่งปลายจมูกมีความกลมมนได้รูป ดูอิ่มเอิบ เมื่อมองจากหน้าตรงแล้วไม่มองเห็นรูจมูก เป็นทรงจมูกที่ช่วยเสริมทรัพย์ คนที่มีปีกจมูกกว้างมักจะเก็บทรัพย์ไม่อยู่ หาเงินได้เท่าไหร่ก็ไหลออกหมด ให้ทำการปรับให้ปีกจมูกมีความแคบลง จะช่วยทำให้ผู้นั้นมีการวางแผนการใช้จ่ายเงินทองที่รอบคอบ มีเงินเหลือกินเหลือใช้ไม่ขาดมือ ทั้งนี้ทั้งนั้นแนะนำให้เข้าปรึกษาแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อเลือกวิธีในการแก้ไขได้เหมาะสมกับคนไข้มากที่สุด เพราะถ้าเกิดผิดพลาดหากต้องการแก้ไขจะสามารถทำได้ยากและมีความซับซ้อนมากกว่าเดิม อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอีกด้วยค่ะ