ศัลยกรรมศีรษะ ตกแต่งกะโหลก ด้วยเทคนิคการเสริมหัวทุย

แก้ปัญหาหัวแบน หัวเบี้ยว หัวผิดรูป แบบถาวร ด้วยเทคนิคกรอกระดูก เสริมด้วแผ่นซิลิโคนเฉพาะบุคคล ประเมินการผ่าตัดจากผลเครื่อง 3D CT Scan ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล

ศัลยกรรมตกแต่งศีรษะ เหมาะกับใครบ้าง ?

1. คนที่มีปัญหาหัวผิดรูป หัวแบน หัวเบี้ยว (Flat Head Syndrome) ที่เป็นมาตั้งแต่เด็ก หรือเกิดจากอุบัติเหตุ
2. ท้ายทอยแบน (Brachycephaly) กะโหลกศีรษะช่วงท้ายทอยแบน ทำให้ดูหัวไม่ทุย สามารถสังเกตเห็นจากมุมข้าง
3. ท้ายทอยเบี้ยว (Plagiocephaly) ตัวอย่างเช่น กะโหลกศีรษะด้านหลังไม่เรียบ ปูดจนดูไม่ปกติ หรือเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ไม่สมมาตร 
4. หัวด้านบนแบน (Coronal Skull Depression) คนที่มีปัญหากะโหลกศีรษะด้านบน สามารถเสริมด้วยซิลิโคนแบบแผ่น ซึ่งจะทำให้ศีรษะสูงขึ้น ดูสมดุลในทุกมุมมอง
5. หัวด้านบนสูง หัวเบี้ยว (Peaked Head Shape) มีลักษณะศีรษะด้านบนสูง หรือแหลมมากกว่าปกติ อาจมีปัญหากะโหลกด้านบนเอียงร่วมด้วย สามารถรับการแก้ไขได้เช่นกัน
6. หัวเป็นคลื่น (Skull Bump / Nuchal Ridge Skull) กรณีกะโหลกศีรษะไม่เรียบ จนมองเห็นหนังศีรษะเป็นคลื่น หรือเป็นก้อนปูดนูน โดยส่วนใหญ่พบได้ที่บริเวณท้ายทอย สามารถใช้เทคนิคการกรอกระดูกตกแต่งได้ 

เทคนิคศัลยกรรมศีรษะ ตกแต่งกะโหลก 

1. เสริมวัสดุด้านหลังศีรษะ หรือเสริมหัวทุย  (Occiput Augmentation) 

เทคนิคการเสริมด้วยซิลิโคนสั่งทำพิเศษเฉพาะบุคคล (Customized Silicone) เป็นเทคนิคเกาหลี โดยการวางแผ่นซิลิโคนชนิดพิเศษที่ออกแบบเฉพาพบุคคลไว้ด้านหลังศีรษะหรือท้ายทอย เพื่อปรับศีรษะให้ดูนูน ทำให้ดูดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยปกติในเพศหญิงจะสามารถเห็นหัวทุยในตอนรวบผม ส่วนเพศชายก็จะสังเกตเห็นทรงศีรษะโค้งเว้าอย่างสมดุลในทุกมิติ

2. เสริมวัสดุด้านบนศีรษะ (Sagittal Skull Augmentation)

กรณีศีรษะด้านบนเบี้ยวผิดรูป หรือมีรูปทรงที่ไม่สมดุลกับรูปหน้า สามารถแก้ไขด้วยการเสริมกระดูกหรือวัสดุเทียมต่าง ๆ เช่น Polymethyl Methacrylate (PMMA) หรือ ซิลิโคนแผ่น

3. ตัดแต่งกระดูก เหลากะโหลกศีรษะ (Craniotomy / Skull Reduction) 

เป็นเทคนิคที่ใช้ในการแก้ไขคนที่มีกระดูกยื่นออกมาผิดปกติ โดยมักพบเป็นก้อนนูน หรืออาจเป็นริ้วยาวบริเวณท้ายทอย ซึ่งหากผุ้รับบริการมีรูปทรงของศีรษะเดิมที่สวยอยู่แล้ว สามารถกรอตัดแต่งกระดูกออกกระโหลกได้ โดยไม่จำเป็นต้องเสริมวัสดุอื่น

วัสดุที่ใช้สำหรับเสริมด้านบนศีรษะ หรือ ด้านหลังศีรษะ (เสริมหัวทุย) 

1. ซิลิโคนสั่งทำพิเศษเฉพาะบุคคล (3D Customized Silicone Implant)
2. โบนซีเมนต์ หรือ Polymethyl Methacrylate (PMMA)

วิธีเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด

• แจ้งให้แพทย์ทราบข้อมูลโรคประจำตัว ยาโรคประจำตัว
• งดทาน ยาแอสไพริน วิตามินอาหารเสริมต่าง ๆ ทุกชนิด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
• สระผมให้สะอาดเรียบร้อยก่อนวันผ่าตัด และไม่แต่งหน้าในวันผ่าตัด
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด

ขั้นตอนการผ่าตัด

• วิสัญญีแพทย์ให้คนไข้ดมยาสลบ
• แพทย์ผู้ทำหัตถการจะเปิดแผลที่ได้ประเมินไว้  
• จากนั้นแพทย์จะกรอกระดูกตกแต่ง และ/หรือ เสริมด้วยแผ่นซิลิโคนแบบพิเศษสำหรับศีรษะด้วยเทคนิคเฉพาะของโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช 
• จากนั้นทำการปิดแผลด้วยแม็กทางการแพทย์ 
• ระยะเวลาในการผ่าตัดขึ้นอยู่กับแต่ละเคส โดยใช้เวลาประมาณ 1.5-3 ชั่วโมง

วิธีการดูแลหลังการผ่าตัด

• ทานยาและปฎิบัติตามแพทย์สั่ง
• งดสระผม 6-10 วัน ตามแพทย์สั่ง
• ควรทำแผลให้สะอาดทุกวัน อย่าให้แผลเปียกน้ำหรืออับชื้น
• หลังผ่าตัดให้นอนคว่ำ 7-14 วัน จะช่วยให้แผลยุบบวมเร็วขึ้น 
• ใช้ผ้ารัดศีรษะตามแพทย์สั่ง 24 ชั่วโมง ใน 10 วันแรก โดยให้คลายผ้าทุก 6 ชั่วโมง ครั้งละ 15-30 นาที หากรู้สึกผ้าที่รัดแน่นไปสามารถแจ้งแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ในการปรับวิธีการรัดผ้า
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
• งดออกกำลังกายหลังการผ่าตัด อย่างน้อย 1 เดือน
• สระผมเบาๆ ได้ด้วยแชมพูเด็กอ่อน ไม่เกาหนังศีรษะ และเป่าผมให้แห้ง หลังผ่าตัดอย่างน้อย 7 วัน
• สามารถกลับไปทำงานตามปกติได้หลังผ่าตัด 10 วัน
• สามารถเข้ามารับบริการนำวัสดุยึดติด (Off-max) ออก หลังผ่าตัด 10-14 วัน 
• มาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง

นพ.ณัฐวุฒิ วิวัจนสิรินทร์ (หมอหนอน) แพทย์ประจำโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ประวัติการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต(เกียรตินิยม) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขา โสต ศอ นาสิกวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมโสต ศอ นาสิกวิทยาการนอนหลับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประวัติการทำงาน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาโสต ศอ นาสิกวิทยา โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ