เสริมหน้าอก ศัลยกรรมหน้าอก แผลเล็ก เจ็บน้อย ปลอดภัยจริงไหม หลังทำพักฟื้นกี่วัน กี่เดือนเข้าที่ 

เสริมหน้าอก ในปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจาก สาวๆหันมาให้ความสนใจกับรูปร่างของตนเองมากขึ้น การที่มีหน้าอกทรงสวยได้รูปทำให้สาวๆใส่เสื้อผ้าได้สวยและมีความมั่นใจ แต่ทั้งนี้ควรเลือกทำหน้าอกขนาดที่เหมาะกับสรีระของตนเอง โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล บางคนอาจพบปัญหาทำขนาดใหญ่จนเกินตัว ทำให้ต้องกลับมาแก้ซ้ำ 

หน้าอกที่สวยงาม ขนาดพอดีรูปทรงเป็นธรรมชาติ นอกจากเพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัวเซ็กซี่แล้วยังสามารถเพิ่มบุคลิกภาพความที่ดีทำให้สาวๆมีเสน่ห์ชวนมอง การศัลยกรรมหน้าอกจึงเป็นหัตถการได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชเรามีแพทย์ที่มีประสบการณ์และซิลิโคนรุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อให้หน้าอกของคุณออกมาสวยงามเหมาะสมกับรูปร่าง นำหนัก ให้คุณเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด

เพื่อให้ไม่เป็นการเจ็บตัวซ้ำหลายรอบ ในบทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้ก่อนศัลยกรรมหน้าอก         ทำหน้าอกแบบไหนดี? พักฟื้นกี่วัน? กี่เดือนเข้าที่? การเตรียมตัวก่อนและหลังเสริม รวมถึงรีวิวการเสริมหน้าอกแบบต่างๆ ทั้งนี้คนไข้ควรเลือกโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อไม่ให้ต้องกลับมาแก้ซ้ำ และได้ผลลัพธ์ที่ออกมาตรงใจคนไข้มากที่สุดค่ะ 

ศัลยกรรมเสริมหน้าอก คืออะไร ?

การทำศัลยกรรมทรวงอก หรือ เสริมหน้าอก คือการใช้เทคนิคทางการแพทย์เพื่อปรับขนาด ลดขนาด อัพไซส์ ปรับแต่งให้ได้หน้าอกทรงที่สวย ดูเป็นธรรมชาติตรงกับความต้องการของคนไข้ มีความปลอดภัย โดยมีวิสัญญีแพทย์เฉพาะทางเป็นผู้ดมยาสลบ พร้อมกับกระบวนการภายในห้องผ่าตัดของโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน สามารถเลือกทรงได้ตามต้องการ โดยใช้เทคนิคการผ่าตัด ผนวกกับประสบการณ์ของคุณหมอ ช่วยให้มีความแม่นยำและได้ผลลัพธ์น่าพึงพอใจตามแผนการรักษาที่วางไว้

บริการเสริมขนาดหน้าอก

บริการยกกระชับ

บริการแก้ไขทรวงอก

บริการเสริมด้วยการส่องกล้อง

บริการลดขนาด

บริการเสริมโดยใช้ไขมันตัวเอง

บริการลดขนาดของหัวนม

บริการลดขนาดของปานนม

เสริมหน้าอก แบบไหนดี ทรงไหนที่นิยมทำ

การเสริมหน้าอกเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้หญิงที่ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอก แก้ไขหน้าอกที่หย่อนคล้อย หรือปรับรูปทรงหน้าอกให้สมมาตรกับสรีระของตนเอง โดยรูปทรงของซิลิโคนเสริมหน้าอกมีด้วยกันอยู่ 2 รูปทรงหลักๆ ดังนี้

หน้าอกทรงหยดน้ำ

ซิลิโคนหน้าอกทรงหยดน้ำ (Teardrop Implant) มีลักษณะคล้ายหยดน้ำ ปลายจะพุ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกอยู่บ้าง ต้องการหน้าอกที่ดูเป็นธรรมชาติ เมื่อเสริมไปแล้วจะมีความย่อนคล้อย คล้ายกับหยดน้ำ ตรงฐานล่างของบริเวณเต้านมจะมีวอลลุ่มมากกว่าส่วนบน ช่วยให้หัวนมยกตั้งขึ้น เหมาะกับคนที่มีโครงไหล่แคบ ตัวสูง หลังเสริมจะช่วยให้ดูสมส่วนกับสรีระมากยิ่งขึ้น

หน้าอกทรงกลม

ซิลิโคนหน้าอกทรงกลม  (Round Implant) มีลักษณะคล้ายซาลาเปา ฐานกว้าง เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกน้อย ต้องการเติมเนื้อเนินหน้าอก เน้นความนูนและความพุ่งโดยซิลิโคนทรงกลมสามารถช่วยแก้ไขหน้าอกหย่อนคล้อยได้ในระดับหนึ่ง เหมาะกับผู้ที่มีหน้าอกหย่อนคล้อยเล็กน้อย แต่ต้องการเต้านมที่ดูอิ่มเอิบขึ้น หน้าอกที่ได้จะดูเต็ม เต่งตึง เห็นเนินอกที่ชัดเจน

ซิลิโคนหน้าอก ยี่ห้อไหนดี ?

ซิลิโคนเสริมหน้าอกในปัจจุบันมีหลายยี่ห้อให้เลือกสรร แต่ละยี่ห้อซิลิโคนมีลักษณะพื้นผิว ความนุ่มที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นควรเลือกให้เหมาะกับความต้องการของตนเอง เพราะแต่ละคนก็จะมีความชอบทรงหน้าอกไม่เหมือนกัน ควรเข้าไปปรึกษาแพทย์ ให้ทราบถึงปัญหาหน้าอก และลักษณะหน้าอกของตัวเองเพื่อ แพทย์จะให้คำแนะนำและเลือกซิลิโคนหน้าอกที่เหมาะสมกับคนไข้มากที่สุด โดยซิลิโคนที่นิยมในปัจจุบัน มี 2 ยี่ห้อหลักๆ ดังนี้ 

ซิลิโคน motiva

ซิลิโคน Motiva เป็นซิลิโคนสัญชาติอเมริกาที่ได้รับความนิยมมากในไทยและเกาหลี มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆที่แบรนด์อื่นไม่มี โดยมีจุดเด่นคือมีการฝังชิพในซิลิโคน จึงมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ เพราะสามารถตรวจสอบข้อมูลการผ่าตัดได้ ทั้ง รุ่น ขนาด วันที่และเวลาทำ พื้นผิวของซิลิโคนเป็นผิวกำมะหยี่ ช่วยลดการเกิดพังผืด มีความยืดหยุ่นสูง ให้สัมผัสที่นุ่ม โดยไม่จำเป็นต้องนวดหน้าอก 

ซิลิโคน mentor

ซิลิโคน Mentor เป็นซิลิโคนสัญชาติอเมริกา ผ่านการรับรอง อย.ไทย และอเมริกาจึงมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย จะมีความนุ่ม อยู่ทรง เสริมหน้าอกออกมาแล้วดูเป็นธรรมชาติเสมือนเต้านมจริง มีให้เลือกหลากหลายขนาด แบบทั้งผิวเรียบและผิวทราย และทรงกลมหรือหยดน้ำ สามารถเลือกได้ตามชอบ จุดเด่นคือ มีความนุ่มสูง สามารถต้านแรงโน้มถ่วงได้ดี

โปรโมชั่น

รีวิว เสริมหน้าอก

ขนาด 225 cc. > 300 cc.

ขนาด 315 cc. > 375 cc.

ขนาด 400 cc.

วิธีการผ่าตัดเสริมหน้าอก มีกี่แบบ

การเสริมหน้าอกสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งแบ่งเป็นสองแบบหลัก คือแบบเปิดแผล (Open surgery) และแบบไม่เปิดแผล หรือเรียกอีกอย่างว่าการผ่าตัดแบบส่องกล้อง

1.ผ่าตัดด้วยกล้อง แผลเล็ก

การผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยวิธีส่องกล้อง  (Endoscopic Breast Surgery) แพทย์จะใช้ท่อส่องกล่อง หรือ กล้องเอนโอสโคป (Endoscope) ช่วยให้ศัลยแพทย์มองเห็นภาพภายในร่างกายได้ชัดเจน ทั้งเส้นเลือดและเนื้อเยื้อภายใน โดยที่ไม่ต้องเปิดแผลใหญ่ มีความแม่นยำสูง โดยสอดกล้องผ่านแผลบริเวณใต้รักแร้ขนาด 2-3 เซนติเมตร ทำให้ง่ายต่อการทำการผ่าตัด และซิลิโคนถูกวางอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ไม่เคลื่อนไปยังที่อื่น เทคนิคนี้ใช้เครื่องมือขนาดเล็กจึงทำให้แผลมีขนาดเล็กมากและแผลจะถูกซ่อนไว้ภายในบริเวณใต้รักแร้ หลังผ่าตัด หัวนมจะไม่มีอาการชา หน้าอกดูสวยเป็นธรรมชาติไร้รอยแผล

2.ผ่าตัดแบบทั่วไป 

การผ่าตัดเสริมหน้าอกแบบเปิดแผลเป็นวิธีการผ่าตัดเสริมหน้าอกแบบดั้งเดิม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกรีดแผลบริเวณหน้าอกเพื่อใส่ถุงซิลิโคน มีหลายวิธีในการผ่าตัดเสริมหน้าอกแบบเปิดแผล ได้แก่

• รอยแผลใต้ราวนม นี่เป็นวิธีการผ่าตัดเสริมหน้าอกแบบเปิดแผลที่พบบ่อยที่สุด แผลเป็นจะอยู่ใต้รอยพับของหน้าอก ซึ่งมักถูกซ่อนไว้ใต้เสื้อผ้า

• รอยแผลรอบปานนม แผลเป็นนี้ อยู่รอบๆ ปานนม มักมองไม่เห็นมากกว่าแผลใต้ราวนม

• แผลรักแร้ แผลเป็นนี้ อยู่ใต้รักแร้ มักมองไม่เห็น แต่ อาจใช้เวลาในการรักษานานกว่าแผลอื่นๆ

ผิวซิลิโคนที่ใช้เสริมหน้าอก 

• ซิลิโคนหน้าอกผิวเรียบ  (Smooth Implant) ผิวสัมผัสของซิลิโคนจะเรียบ มีลักษณะใส สามารถมองเห็น Cohesive Gel ข้างในได้ชัดเจน ซิลิโคนแบบผิวเรียบจะช่วยลดโอกาสการเกิดริ้วบริเวณหน้าอกได้ดีกว่าแบบผิวทราย แต่ต้องคอยหมั่นนวดคลึงบริเวณเต้านมบ่อยๆเผื่อลดการเกิดพังผืดบริเวณเต้านม

• ซิลิโคนหน้าอกผิวทราย (Siltex Implant) มีลักษณะขุ่นทึบไม่สามารถมองเห็น Cohesive Gel ภายในได้ชัดเจน ผิวสัมผัสของซิลิโคนจะมีความสากเล็กน้อยคล้ายเม็ดทรายเล็กๆ จึงช่วยลดการเกิดพังผืดได้ดีกว่าผิวเรียบ ทำให้ไม่ต้องคอยหมั่นนวดคลึงบริเวณเต้านม หน้าอกจะเข้าที่ได้เร็วกว่าและยังลดปัญหาในการเคลื่อนตำแหน่งของซิลิโคนหลังเสริมหน้าอกได้อีกด้วย แต่เนื่องด้วยผิวซิลิโคนแบบผิวทรายมีความหยาบ เมื่อใส่ซิลิโคนเข้าไปจึงทำให้เกิดความหนืดจึงต้องใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดที่นานกว่าการเสริมแบบเรียบ

• ซิลิโคนหน้าอกผิวกึ่งเรียบกึ่งทราย  (Nano texture) เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของซิลิโคนเสริมหน้าอก ผิวสัมผัสนั้นมีความละเอียดเนียน ไม่เรียบเหมือนซิลิโคนผิวเรียบ และไม่หยาบเหมือนซิลิโคนผิวทราย ถือเป็นการผสมผสานข้อดีของซิลิโคนทั้งสองประเภทเข้าไว้ด้วยกัน คือลดโอกาสการเกิดพังผืด และการเคลื่อนตัวของซิลิโคนหลังทำหน้าอกนั่นเองค่ะ

วิธีเลือกซิลิโคนให้เหมาะสม

การเลือกซิลิโคนเสริมหน้าอกจริงๆมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียด เช่น รูปทรง, พื้นผิว, ขนาด, ยี่ห้อ, และประเภทของซิลิโคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง และมีคุณภาพในการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน การปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ข้อมูล และคำแนะนำที่เหมาะสมกับความต้องการและสรีระร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย

H2:กระบวนการผ่าตัดเสริมหน้าอก 

• ตรวจร่างกายก่อนเข้าทำการผ่าตัด

• พยาบาลทำความสะอาดร่างกายก่อนเข้ารับการผ่าตัด

• วิสัญญีแพทย์ให้ดมยาสลบก่อนเริ่มทำการผ่าตัด

• ศัลยแพทย์เริ่มทำการผ่าตัดตามแผนที่ได้วางไว้ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง

• พักฟื้นที่โรงพยาบาล 1 คืน

ตำแหน่งการวางซิลิโคนทำหน้าอก

สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ตำแหน่งหลัก ดังนี้

1. เหนือกล้ามเนื้อ เป็นการวางซิลิโคนเสริมหน้าอกไว้ด้านบนของกล้ามเนื้อหน้าอก โดยอยู่ระหว่างเนื้อหน้าอกและชั้นกล้ามเนื้อ เหมาะกับคนที่มีเนื้อหน้าอก ไม่เหมาะกับคนที่มีรูปร่างผอม แต่เทคนิคนี้ไม่นิยมในปัจจุบันเนื่องจากก่อให้เกิดพังผืดสูง ในระยะยาวมักเกิดปัญหาตามมาคือเห็นขอบซิลิโคนชัด หรือมองเห็นเป็นขอบริ้วๆ เนื่องจากพังผืดรัดตัว จะทำให้หน้าอกแลดูไม่เป็นธรรมชาติ

2. ใต้กล้ามเนื้อ เป็นการวางซิลิโคนอยู่ใต้ชั้นกล้ามเนื้อทั้งหมด จึงทำให้หน้าอกหลังทำดูมีความเป็นธรรมชาติ เนียนเสมอเป็นเนื้อเดียวกันกับเต้านม วิธีนี้สามารถลดปัญหาการเกิดพังผืดและเต้านมแฝดได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกน้อย ใส่ซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่มากไม่ได้ หลังผ่าตัดจะมีอาการเจ็บ และยกแแขนได้ลำบากในช่วงแรกๆ หากออกแรงบริเวณแขนมากๆอาจทำให้เห็นซิลิโคนขยับได้

3. วางใต้กล้ามเนื้อบางส่วน เป็นการวางซิลิโคนในตำแหน่งด้านบนไว้ใต้ชั้นกล้ามเนื้อ ด้านล่างอยู่เหนือกล้ามเนื้อ เป็นวิธีที่เสริมหน้าอก ออกมาแล้วดูมีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด เนื่องจากเนินนมซิลิโคนถูกวางไว้ใต้ชั้นกล้ามเนื้อจึงทำให้มองไม่เห็นขอบซิลิโคน ส่วนซิลิโคนด้านล่างถูกวางไว้เหนือชั้นกล้ามเนื้อ ทำให้สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ตามปกติ สามารถออกแรงแขนได้ตามปกติโดยมองไม่เห็นขอบของซิลิโคน เนื่องจากมีความซับซ้อนจึงต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ ข้อดีของเทคนิคนี้สามารถเลือกใช้ซิลิโคนได้หลายขนาดและยังเหมาะกับทุกรูปสรีระอีกด้วย

ใครที่เหมาะกับศัลยกรรมเสริมหน้าอก

การศัลยกรรมเสริมหน้าอก เป็นวิธีแก้ไขรูปทรงหน้าอกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สามารถช่วยเพิ่มขนาดหน้าอก ยกกระชับหน้าอก และแก้ไขหน้าอกไม่สมมาตร สามารถสังเกตตัวเองว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมในการทำนมได้หรือไม่ ดังนี้

1. ผู้ที่มีหน้าอกเล็ก หรือหน้าอกแบน

อาจจะรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง การเสริมหน้าอกสามารถช่วยเพิ่มขนาดหน้าอกให้ดูสมมาตร และช่วยให้รูปร่างดูดีขึ้น

2. ผู้ที่มีหน้าอกห่าง 

ลักษณะหน้าอกสองข้างอยู่ห่างกันมากว่าปกติ การศัลยกรรมหน้าอกสามารถช่วยให้หน้าอกสมมาตร และฟูกระชับมากขึ้น

3:ผู้ที่มีลักษณะหน้าอกหย่อนคล้อย หลังการคลอดบุตร

หลังจากคลอดบุตร หน้าอกของผู้หญิงอาจจะหย่อนคล้อย สูญเสียความเต่งตึง การเสริมหน้าอกสามารถช่วยยกกระชับหน้าอกให้ดูเต่งตึงขึ้น

4. ผู้ที่มีหน้าอกทั้งสองข้างไม่เท่ากัน 

หน้าอกไม่เท่ากัน อาจจะรู้สึกสูญเสียความมั่นใจ การเสริมหน้าอกสามารถช่วยปรับขนาด และรูปทรงของหน้าอกให้เท่ากัน

5. ผู้ที่ต้องการแก้ไขทรงอกหลังการผ่าตัด เช่น ผ่าตัดมะเร็งเต้านม

ผู้ที่ผ่านการผ่าตัดมะเร็งเต้านม อาจจะสูญเสียเนื้อเยื่อเต้านม การเสริมหน้าอกสามารถช่วยสร้างรูปทรงหน้าอกใหม่ได้

ทำหน้าอกกี่ CC ถึงจะดี

การทำหน้าอกควรให้ความสำคัญกับการเลือกขนาดที่เหมาะสมกับรูปร่าง และความต้องการของแต่ละบุคคล เนื่องจากความสวยงาม และความพอเหมาะสมของขนาดหน้าอกแตกต่างกัน ขนาดหน้าอกโดยทั่วไปที่นิยม มีดังนี้ 

1. ทำนม 200 CC

เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีหน้าอกเล็ก ต้องการเพิ่มขนาดให้ดูอวบอิ่มขึ้นโดยไม่ดูใหญ่เกินไป

2. ทำนม 300 CC 

เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีหน้าอกขนาดปานกลาง ต้องการเพิ่มขนาดให้ดูใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

3. ทำนม 400 CC

เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีหน้าอกขนาดใหญ่ ต้องการเพิ่มขนาดให้ดูใหญ่ขึ้นมาก หรือต้องการแก้ไขความหย่อนคล้อย

วิธีการดูซิลิโคนแท้ที่ปลอดภัย สังเกตได้จากอะไรบ้าง ?

1.  ตรวจสอบกล่องซิลิโคน

• ซิลิโคนแท้จะมีกล่องที่ระบุข้อมูลครบถ้วน เช่น ชื่อยี่ห้อ รุ่น รหัสสินค้า เลขที่ใบอนุญาตผลิต เลขที่ใบอนุญาตนำเข้า วันที่ผลิต วันหมดอายุ
• ตรวจสอบสภาพกล่องให้สมบูรณ์ ไม่ฉีกขาด บุบสลาย หรือมีร่องรอยการแกะ
• สแกน QR Code บนกล่องเพื่อตรวจสอบข้อมูลกับเว็บไซต์ของผู้ผลิต

2. ตรวจสอบใบประกัน

• ซิลิโคนแท้จะมีใบประกันจากผู้ผลิต ระบุข้อมูลครบถ้วน เช่น ชื่อผู้ซื้อ รหัสสินค้า วันที่ผ่าตัด
• ตรวจสอบลายเซ็นแพทย์และตราประทับของสถานพยาบาล

3.  สังเกตุลักษณะของซิลิโคน

• ซิลิโคนแท้จะมีผิวเรียบเนียน ไม่มีรอยขีดข่วน รอยบุ๋ม หรือรอยแตก
• เนื้อซิลิโคนมีความยืดหยุ่น ไม่แข็ง หรือเปราะ
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าซิลิโคนอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่รั่วซึม

เสริมหน้าอก ทำนม ราคา 

ราคาการเสริมหน้าอก (breast augmentation) แตกต่างกันไปตามปัญหาหน้าอกของแต่ละบุคคล และประเภทของวัสดุที่ใช้ในการเสริมหน้าอก เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด สถานพยาบาลที่ทำการรักษา รวมถึงประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของแพทย์ด้วย อย่างไรก็ตาม ต้องการตรวจสอบราคาที่แน่นอนควรปรึกษาแพทย์ หรือสถานพยาบาลที่ผู้เข้ารับบริการสนใจโดยตรง 

อาจจะมีตารางราคา แทรกให้ลูกค้าพิจารณา

เสริมหน้าอก อันตรายไหม ?

การเสริมหน้าอกเป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงบ้าง แต่ไม่ได้ถือเป็นอันตราย ความเสี่ยงอาจเกิดจากการติดเชื้อ หรือมีปัญหาหลังการผ่าตัด เช่น อาการบวม บริเวณแผล ริ้วรอย หรือความผิดปกติในการหายขาดของแผล แต่โดยรวมแล้วการเสริมหน้าอกด้วยวิธีที่ถูกต้อง และมีการดูแลที่ดีจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มักจะลดความเสี่ยงลงไปได้มาก เพราะฉะนั้น หากคุณต้องการเสริมหน้าอก ควรเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินความเสี่ยงในการผ่าตัด

วิธีเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอกครั้งแรก

1. ปรึกษาแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ ปรึกษาเกี่ยวกับขนาด และรูปทรงของซิลิโคน แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับโรคประจำตัว ยาที่ใช้ อาหารเสริม การแพ้ยา และตรวจแมมโมแกรม

2. ตรวจร่างกาย ตรวจเลือด เอกซเรย์ปอด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจตามเกณฑ์

3. งดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด เพื่อป้องกันการลำลักอาหารเข้าหลอดลม

4. งดยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาแอสไพริน วิตามิน หรือสมุนไพร ตามคำแนะนำของแพทย์

5. งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ 4 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด 

6. เตรียมเสื้อผ้าที่สวมใส่ง่าย ถอดง่าย เช่น เสื้อเชิ้ต

7. แนะนำให้ พาคนดูแลมาด้วย เพื่อมาพากลับบ้านหลังผ่าตัด เนื่องจากหลังผ่าตัดอาจมีอาการมึนยาสลบ

วิธีดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมหน้าอก

1.  ห้ามโดนน้ำ ห้ามให้แผลผ่าตัดโดนน้ำเป็นเวลา 3 วันหลังผ่าตัด หลังจาก 3 วัน สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ แต่ควรระวังไม่ให้แผลโดนน้ำโดยตรง

2.  ไม่ควรยกของหนัก หรือทำงานหนักอย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังผ่าตัด เนื่องจากอาจทำให้แผลฉีกขาดได้

3.  หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ใช้แขนมาก หรือการออกกำลังกายแบบหักโหม  ควรพักฟื้นอย่างน้อย 1 – 2 เดือน

4.  ควรนอนหงาย โดยใช้หมอนหนุนศีรษะและลำตัวส่วนบนให้สูงประมาณ 30 – 40 องศา เพื่อลดอาการบวม

5.  งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด เนื่องจากสารในบุหรี่และแอลกอฮอล์มีผลทำให้แผลหายช้า

6.  งดมีเพศสัมพันธ์ 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด เพื่อป้องกันแผลฉีดขาด

อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังเสริมหน้าอก

• ปวด หรือเจ็บบริเวณหน้าอก อาการนี้อาจเกิดขึ้นในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด เกิดจากแผลผ่าตัดใหม่ กล้ามเนื้อขยายตัว และน้ำหนักของซิลิโคน

• บวม อาการบวมจะเกิดขึ้นหลังผ่าตัด โดยเฉพาะช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรก สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมได้

• ช้ำ อาการช้ำจะเกิดขึ้นหลังผ่าตัด โดยทั่วไปจะค่อยๆ จางหายไปเองภายใน 1 – 2 สัปดาห์

• ชา อาจรู้สึกชาบริเวณหัวนมหรือหน้าอก เกิดจากเส้นประสาทได้รับความเสียหาย อาการนี้มักจะหายไปเองภายใน 3 – 6 เดือน

• ไวต่อความรู้สึกน้อยลง อาจรู้สึกไวต่อความรู้สึกน้อยลงบริเวณหน้าอก เกิดจากเส้นประสาทได้รับความเสียหาย อาการนี้มักจะหายไปเองภายใน 3 – 6 เดือน

ข้อห้ามหลังเสริมหน้าอก

• ห้ามนอนคว่ำหลังเสริมหน้าอก การนอนคว่ำจะกดทับหน้าอกโดยตรง ส่งผลต่อซิลิโคนที่เสริมเข้าไป อาจทำให้ซิลิโคนเบี้ยว เสียรูปทรง หรือเคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง

• ห้ามสวมใส่ชุดชั้นในที่มีโครง เนื่องจากอาจทำให้ซิลิโคนหน้าอกผิดรูปได้ แนะนำให้ใส่ซัพพอร์ตบรา เพื่อพยุงซิลิโคนให้เข้าที่ 

• ห้ามออกแรงหนักๆ บริเวณแขนอย่างน้อย 1 เดือน เนื่องจากอาจทำให้แผลบริเวณผ่าตัดอักเสบได้

อาการหลังเสริมหน้าอก 7 วัน

ใน 7 วันแรกหลังการเสริมหน้าอก อาจพบอาการต่อไปนี้

อาการบวม: หน้าอกของคุณจะบวมและรู้สึกตึงๆ อาการบวมมักจะรุนแรงที่สุดใน 48 ชั่วโมงแรก และค่อยๆ ยุบลงในวันต่อๆ ไป คุณสามารถประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการบวม 

อาการปวด: อาจมีอาการปวดตื้อๆ หรือปวดแสบๆ บริเวณหน้าอก อาการปวดมักจะรุนแรงที่สุดใน 2 – 3 วันแรก และค่อยๆ ดีขึ้นในวันต่อๆ ไป แพทย์จะสั่งยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาอาการ 

อาการหลังเสริมอก 14 วัน

รอยช้ำ: อาจมีรอยช้ำบริเวณหน้าอกและใต้รักแร้ รอยช้ำมักจะจางหายไปเองภายใน 1 – 2 สัปดาห์

อาการชา: อาจมีอาการชาบริเวณหัวนมและหน้าอก อาการชามักจะหายไปเองภายใน 6 – 8 สัปดาห์ 

เสริมหน้าอก พักฟื้นกี่วัน

ระยะเวลาพักฟื้นหลังเสริมหน้าอก ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์ ตำแหน่งวางซิลิโคน ขนาดซิลิโคน และปัจจัยส่วนตัว โดยทั่วไปแล้ว แนะนำให้พักฟื้นอย่างน้อย 7 วัน แต่คนไข้จะสามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติภายใน 2-3 วัน

เสริมหน้าอกกี่เดือนเข้าที่

หน้าอกที่เสริมไปแล้วจะยุบลงและมองดูสวยประมาณ 1 เดือนหลังทำ และจะเข้าที่ก็ประมาณ 3 – 6 เดือนหลังทำ แต่ใน 3 เดือนแรก อาจมีอาการปวดเล็กน้อย ดังนี้

• อาการปวด อาจมีอาการปวดเล็กน้อย โดยเป็นเพียงบางตำแหน่ง

• เสียงลมหรือน้ำ อาจมีเสียงคล้ายลมหรือน้ำ เวลาที่กำลังนวดหน้าอก

• อาการชา อาจจะรู้สึกชาได้บ้าง บริเวณหน้าอกหรือที่หัวนม

• อาการเหล่านี้จะเป็นเพียงชั่วระยะเวลาอันสั้น และจะหายไปเองเป็นปกติธรรมดา

เสริมหน้าอกกี่เดือนถึงจะนิ่ม

หน้าอกที่เสริมไปจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 เดือนถึงจะนิ่มลงค่ะ ระยะเวลาที่แน่นอนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น

• ขนาดของซิลิโคน: ซิลิโคนขนาดใหญ่จะใช้เวลานานกว่าซิลิโคนขนาดเล็ก

• ตำแหน่งของซิลิโคน: ซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อจะใช้เวลานานกว่าซิลิโคนบนกล้ามเนื้อ

• ลักษณะผิว: ผิวบางจะใช้เวลานานกว่าผิวหนา

• การดูแลหลังผ่าตัด: การนวดหน้าอกอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้หน้าอกนิ่มลงเร็วขึ้น

เสริมหน้าอก หมอไหนดี ที่มาสเตอร์พีช มีคำตอบ    

การเลือกศัลยแพทย์เสริมหน้าอกที่ดีที่สุดนั้น เป็นสิ่งสำคัญมาก นื่องจากนี่เป็นศัลยกรรมการที่แพทย์ต้องมีความชำนาญ และประสบการณ์ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการ สไตล์ และความชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคล 

ที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซมีศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมหน้าอกมากมาย  แต่ละท่านมีเทคนิคและประสบการณ์เฉพาะทาง

เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น  มาสเตอร์พีซมีบริการให้คำปรึกษาฟรี  คุณสามารถพูดคุยกับแพทย์โดยตรง  แจ้งความต้องการของคุณ  แพทย์จะประเมินรูปร่าง  สรีระ  และแนะนำเทคนิคที่เหมาะสมกับคุณ

สรุป

การศัลยกรรมเสริมหน้าอก เป็นการผ่าตัดเพื่อเพิ่มขนาด ปรับรูปทรง แถมยังช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆของหน้าอก ไม่ว่าจะเป็นหน้าอกเล็ก หย่อนคล้อย เป็นการแก้ไขหน้าอกให้ดูสวยกระชับเข้ากับสรีระร่างกายมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในยุคนี้ทำใหการทำหน้าอก มีแผลเล็ก และมีอาการเจ็บน้อย ไม่เหมือนการผ่าตัดแบบดั้งเดิม ส่งผลให้ไม่ต้องพักฟื้นนาน ประกอบกับความชำนาญของแพทย์ การผ่าตัดเสริมหน้าอกจึงมีคุณภาพ ปลอดภัย ได้รูปทรงหน้าอกที่สวยงาม