ผิวไม่โดนแดดแต่ทำไมถึงเป็นฝ้า?

เคยสงสัยกันบ้างมั้ยคะว่า ทำไมอยู่ดีๆ หน้าก็เป็นฝ้า ทั้งๆ ไม่ค่อยจะโดนแสงแดดเท่าไหร่  หน้าดูมีเงา จะบอกว่าหน้าใสก็ไม่ใช่ แต่ที่แน่ๆ นั่นล่ะที่เค้าเรียกกันว่า “ฝ้า” แล้วฝ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร มีปัจจัยอะไรบ้างมาดูกันค่า

แสงแดด

คงหนีไม่พ้นกับแสงแดดที่ต้องเจอในทุกๆ วัน แสงแดดกับ UVA/UVB เป็นของคู่กัน ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดฝ้า ยิ่งแสงแดดในช่วงเวลา 10.00-14.00 น. แล้วล่ะก็ ถ้าโดนผิวหนังจะไหม้เกรียมและเกิดฝ้าได้ง่ายเลยล่ะค่ะ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดในช่วงเวลานี้ หรือหากเลี่ยงไม่ได้ก็ควรพกร่มหรือสวมหมวกร่วมกับการทาครีมกันแดดค่ะ

ความร้อนจอคอมพิวเตอร์

เป็นอะไรที่เลี่ยงไม่ได้สำหรับแสงและรังสีความร้อนจากจอคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะพนักงานที่ต้องใช้คอมฯ เป็นเวลานาน หรือคนที่ชอบท่องโลกโซเชียล  รังสีจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ส่งผลให้ผิวหน้าถูกรบกวน มีอาการร้อนสะสม จนรบกวนเม็ดสีผิวหรือเมลานิน ทำให้เกิดฝ้าเด่นชัดบนใบหน้าขึ้น วิธีช่วยอาจจะหาต้นตะบองเพชรเล็กๆ มาวางใกล้หน้าจอคอมฯ เพื่อช่วยดูดเอารังสีที่ไม่พึงประสงค์ออกไปบ้างก็ยังดี บางคนถึงขนาดใสหน้ากากอนามัยกันเลยทีเดียว

พักผ่อนไม่เพียงพอ

เป็นสิ่งที่หลายคนรู้ แต่จะทำไม่ได้ การอดนอนหรือนอนน้อย ส่งผลต่อผิวพรรณโดยตรง เพราะการนอนดึกทำให้ระบบการทำงานของเหงื่อลดลง การขับของเสียออกจากร่างกายก็ลดลงด้วย อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น การขับของเสียจะระบายออกทางปัสสาวะแทน ทำให้ไตทำงานหนักมากขึ้น จากนั้นผิวพรรณก็จะแย่ลง มีสิว ฝ้า กระสะสม ดังนั้นเพื่อผิวพรรณที่สดใสเรื่องง่ายๆ แบบนี้ ถ้าหากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงนะคะ

ยิ่งเครียดฝ้ายิ่งขึ้น    

            รู้หรือไม่ว่าความเครียดทำให้เราเป็นฝ้าได้ เวลาที่เครียดมากๆ ร่างกายของเราจะสร้างสารอนุมูลอิสระ ที่ไปกระตุ้นเม็ดสีผิวให้ทำงานผิดปกติ จนเกิดเป็นฝ้าขึ้นบนใบหน้า ยิ่งเครียดฝ้ายิ่งชัดขึ้น ดังนั้นถ้ารู้ว่าเครียดแล้วก็ควรหากิจกรรมคลาย เครียดทำ เช่น ออกกำลังกาย เล่นโยคะ นั่งสมาธิ หรือออกไปช้อปปิ้งให้หายเครียดค่ะ

ดื่มน้ำน้อย

น้ำมีความจำเป็นต่อร่างกายของคนเรามาก ไมใช่แค่ช่วยรักษาความสมดุลในร่างกาย และความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าให้เราเท่านั้น แต่ยังช่วยในเรื่องการขจัดของเสียออกจากร่างกาย และช่วยลดการเกิดสิว ฝ้า อีกด้วย ดังนั้นเราจึงให้ความสำคัญกับการดื่มน้ำในแต่ละวันอย่างมาก ซึ่งเฉลี่ยแล้วควรดื่มน้ำให้ได้วันละ  6 – 8  แก้ว หรือ 2 ลิตร

เคมีจากเครื่องสำอาง

เครื่องสำอางสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ทำลายผิวหน้าเราได้ ถ้าเลือกเครื่องสำอางไม่ดีสารเคมีหรือสารต้องห้ามก็จะเข้าไปสะสมบนใบหน้าของเรา จนทำให้เกิดอาการแพ้ เป็นสิว มีรอยดำ เป็นฝ้า และในที่สุดใบหน้าก็จะแย่ลงจนต้องไปพบแพทย์ ดังนั้นการเลือกเครื่องสำอางเราควรให้ความสำคัญในส่วนผสมต่างๆ และไม่ควรเลือกที่ราคาถูกมากหรือที่คนอื่นบอกว่าดี ไม่อย่างงั้นอาจจะต้องเสียเงินค่ารักษาผิวหน้า ซึ่งอาจจะแพงกว่าราคาครีมอย่างที่คาดไม่ถึงเชียวล่ะ

ตั้งครรภ์

เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยากสำหรับคุณแม่หลายคนที่กำลังตั้งครรภ์ และพบว่าใบหน้าของตัวเองดูคล้ำเป็นเงา และเริ่มเข้มด้วยรอยฝ้า กระ และจุดด่างดำ ซึ่งสาเหตุเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในร่างกายของหญิงตั้งครรภ์ที่สูงขึ้น แต่หลังจากที่คลอดบุตรแล้ว ฝ้าก็จะค่อยๆ จางลงไปเองค่ะ ไม่ต้องตกใจ บางคนหายเร็วหายช้า ขึ้นอยู่กับสภาพฮอร์โมนและสภาพผิวของคุณแม่แต่ละคนค่ะ

ยาคุมบางประเภท

ยาคุมบางประเภทมีปริมาณฮอร์โมนที่มาก บางคนอาจจะไม่ถูกกับยาคุมบางยี่ห้อ เวลากินเข้าไปทำให้ร่างกายได้รับฮอร์โมนมากขึ้น กระตุ้นให้เม็ดสีผิวเมลานินก่อตัวจนเกิดรอยฝ้าขึ้นบนใบหน้า และส่วนต่างๆ ตามร่างกาย ดังนั้นคุณผู้หญิงก่อนที่ซื้อยาคุมมากินควรศึกษา หรือปรึกษาเภสัชกรหน้าร้านให้ดีก่อน เพราะยาคุมบางชนิดมีตัวยาที่ส่งผลต่อการเกิดฝ้าค่ะ

รู้แล้วใช่มั้ยคะว่าปัจจัยอะไร ที่ส่งผลให้เกิดฝ้าบนใบหน้าของเรา แล้วถ้าเป็นฝ้าแล้วจะทำอย่างไรดี ฝ้ารักษายากกว่าการรักษาสิวเสียอีก สำหรับการรักษาโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง แพทย์ก็จะแนะนำการรักษาด้วยการฉีด เพื่อทำให้ฝ้าจางลง และอาจทำควบคู่กับการรักษาด้วยการทำเลเซอร์ที่ช่วยให้จุดด่างดำจางลงและ การผลักวิตามินให้ผิวดูกระจ่างใส ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหา จุดด่างดำและหมองคล้ำจากฝ้า กระ ทั้งนี้การรักษาขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนว่าเป็นมากน้อยแค่ไหน และขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่รักษาด้วยค่ะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  
Call Center : 02-1054370
Facebook : masterpiecehospital
Instagram : masterpiece_Hospital
Line : @masterpiecehospital
Youtube : Masterpiece Hospital