โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ 99/19 ถ.สุโขทัย, แขวง ดุสิต เขตดุสิต, กทม. 10300
02-1054370, 02-2413246

เลื่อนไรผม แก้ปัญหาหน้าผากกว้าง

เลื่อนไรผมแก้ปัญหาหน้าผากกว้าง

เลื่อนไรผม แก้ปัญหาหน้าผากกว้าง

หน้าผากเป็นองค์ประกอบสำคัญของใบหน้า มีส่วนช่วยในการกำหนดรูปลักษณ์ และบุคลิกภาพของแต่ละคน การมีหน้าผากกว้าง หรือสูงเกินไปอาจทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน และดูมีอายุมากขึ้นได้ ศัลยกรรม เลื่อนไรผม จึงเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการปรับลดหน้าผากให้ดูสมส่วนมากขึ้น

การศัลยกรรมเลื่อนไรผม เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ตอบโจทย์ใครหลาย ๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาลักษณะหน้าผากกว้าง หน้าผากสูง หน้าผากเถิก  ซึ่งสามารถทำได้ทั้งคุณผู้ชาย และคุณผู้หญิง หน้าผากไม่เพียงแต่ทำเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมในเรื่องของความมั่นใจ และโหงวเฮ้งได้อีกด้วยค่ะ

ศัลยกรรมเลื่อนไรผมคืออะไร

ศัลยกรรมเลื่อนไรผมคืออะไร

ศัลยกรรมเลื่อนไรผมเป็นการผ่าตัด เพื่อลดขนาดหน้าผากโดยการดึงไรผมให้ต่ำลงมา การผ่าตัดนี้มักทำในผู้ที่มีปัญหาหน้าผากกว้าง หรือหน้าผากสูงเกินไป ซึ่งอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ ผมร่วง หรือเคยผ่านการผ่าตัดดึงหน้าผากมาก่อน และผลลัพธ์ของการผ่าตัดเลื่อนบริเวณไรผมจะคงอยู่ถาวร

การผ่าตัดเลื่อนไรผมมักทำภายใต้การดมยาสลบ โดยแพทย์จะทำการเปิดแผลที่แนวไรผมโค้งไปตามแนวหน้าผากเล็กน้อย วัดจากขอบแนวไรผมลงมาประมาณ 1.5 – 2 เซนติเมตร จากนั้นจะตัดผิวหนัง และเนื้อเยื่อส่วนนี้ของหน้าผากออก ตัดเป็นแนวซิกแซค แล้วดึงแนวไรผมลงมาเย็บติดกับหน้าผากที่ตัดออกไป

ศัลยกรรมเลื่อนไรผมคืออะไร

ใครที่เหมาะกับการเลื่อนไรผม

  • ผู้ที่เคยปลูกผมมาแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ผมไม่ขึ้น หรือได้ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ
  • ผู้ที่มีพื้นที่บริเวณหน้าผากกว้างมากเกินไป 
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น เพราะหัตถการปลูกผมบางประเภทต้องอาศัยระยะเวลาพักฟื้นนาน ขณะที่หัตการเลื่อนไรผมสามารถฟื้นฟู และสมบูรณ์ได้ภายใน 14 วัน 
  • ผู้ที่มีอาการผมร่วงเป็นหย่อมบริเวณหน้าผาก ทำให้หน้าผากดูกว้างขึ้น
หน้าผากกว้างเกิดจากอะไร

หน้าผากกว้างเกิดจากอะไร

  • สาเหตุทางพันธุกรรม เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด โดยลักษณะหน้าผากกว้างจะถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ หรือญาติพี่น้องที่มีหน้าผากกว้าง กรณีนี้มักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เนื่องจากผู้ชายมีฮอร์โมนเพศชาย (testosterone) สูงกว่าผู้หญิง ซึ่งฮอร์โมนเพศชายมีส่วนกระตุ้นให้เกิดการหลุดร่วงของเส้นผมบริเวณหน้าผาก ส่งผลให้แนวผมบริเวณด้านข้าง และด้านหน้าของศีรษะค่อย ๆ ร่วงจนกลายเป็นหน้าผากกว้าง
  • การมัดผมแบบรวบตึงเป็นประจำ เนื่องจากแรงดึงของผมอาจทำให้เส้นผมบริเวณหน้าผากหลุดร่วงได้
  • ผมร่วง สาเหตุนี้มักพบได้บ่อยในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เกิดจากฮอร์โมนเพศชายที่ชื่อว่า DHT (Dihydrotestosterone) เข้าไปทำลายรากผม ทำให้ผมร่วง และบางลง ส่งผลให้หน้าผากกว้างขึ้น โดยลักษณะผมร่วงที่พบในผู้ชายมักมีลักษณะตัวเอ็ม (M-shaped) หรือเป็นรูปตัว U (U-shaped)
ทำไมต้องศัลยกรรมเลื่อนไรผม

ทำไมต้องศัลยกรรมเลื่อนไรผม

ศัลยกรรมเลื่อนไรผมเป็นการผ่าตัดเพื่อย้ายแนวไรผมให้ต่ำลง มักทำเพื่อปรับสัดส่วนของใบหน้า มักทำในผู้ที่มีปัญหาหน้าผากกว้าง หรือหน้าผากสูง ซึ่งอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ ผมร่วง หรือการที่เคยผ่าตัดดึงหน้าผากมาก่อน

  • ปรับปรุงสัดส่วนของใบหน้า หน้าผากที่กว้าง หรือสูงเกินไปอาจทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน การผ่าตัดเลื่อนบริเวณไรผมสามารถช่วยปรับสมดุลของใบหน้า และทำให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น
  • ทำให้ดูอ่อนเยาว์ หน้าผากที่กว้างเกินไปอาจทำให้ดูแก่กว่าวัย การผ่าตัดเลื่อนบริเวณไรผมสามารถช่วยทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงได้
  • ช่วยให้การจัดแต่งทรงผมง่ายขึ้น หน้าผากที่สูงเกินไปอาจทำให้การจัดแต่งทรงผมยากขึ้น การผ่าตัดเลื่อนบริเวณไรผมสามารถช่วยให้จัดแต่งทรงผมได้ง่ายขึ้น
เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัดเลื่อนไรผม

เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัดเลื่อนไรผม

การผ่าตัดดึงไรผมเป็นการผ่าตัดเพื่อลดขนาดของหน้าผาก โดยดึงไรผมให้ต่ำลงมา ซึ่งสามารถทำได้ด้วย 2 เทคนิคหลัก ๆ ดังนี้

1. เทคนิค Coronal incision

เป็นเทคนิคที่ใช้แผลแนวตรงยาว ประมาณ 10 – 15 เซนติเมตร บริเวณแนวไรผม แพทย์จะทำการเลาะใต้ชั้นผิวหนัง และกล้ามเนื้อหน้าผากออก จากนั้นจึงดึงผิวหนังให้ตึง และตัดผิวหนังส่วนเกินออก แล้วเย็บปิดแผล

เทคนิคนี้มีข้อดีคือ สามารถดึงหน้าผากได้กว้าง และเห็นผลได้ชัดเจน แต่มีข้อเสียคือ มีแผลเป็นแนวตรงยาว อาจมองเห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะในคนที่ผมบาง

2. เทคนิค Endoscopic forehead  Brow lift

เป็นเทคนิคที่ใช้กล้องส่องผ่าตัดขนาดเล็ก แพทย์จะทำการกรีดแผลเล็ก ๆ บริเวณแนวไรผม ประมาณ 5 – 6 แผล จากนั้นจึงใช้กล้องส่องผ่าตัดเลาะใต้ชั้นผิวหนัง และกล้ามเนื้อหน้าผากออก จากนั้นจึงดึงผิวหนังให้ตึง และตัดผิวหนังส่วนเกินออก แล้วเย็บปิดแผล

เทคนิคนี้มีข้อดีคือ มีแผลเป็นขนาดเล็ก มองเห็นได้ยากกว่าเทคนิค Coronal incision แต่มีข้อเสียคือ สามารถดึงหน้าผากได้แคบกว่าเทคนิค Coronal incision

การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมดึงไรผม

การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมดึงไรผม

การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมดึงไรผม มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่น และปลอดภัย ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้ค่ะ

  • ปรึกษาแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำ พร้อมประเมินก่อนเข้ารับการผ่าตัด แพทย์จะสอบถามประวัติทางการแพทย์ โรคประจำตัว และยาที่รับประทานเป็นประจำ รวมถึงตรวจร่างกายเพื่อประเมินสุขภาพโดยรวม
  • งดยาบางชนิด อย่างน้อย 2 – 3 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด ยาบางชนิดที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ยากลุ่ม NSAID อาหารเสริมบางชนิด เช่น กระเทียม น้ำมันปลา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการผ่าตัด
  • งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด การสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด
  • สระผมให้สะอาด ก่อนวันผ่าตัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • ส่วมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ในวันที่นัดผ่าตัด ไม่ควรใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่น หรือปิดทับบริเวณหน้าผาก

นอกจากนี้ ควรเตรียมตัวในด้านจิตใจให้พร้อมสำหรับการผ่าตัดด้วย การผ่าตัดดึงไรผมเป็นการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้บ้าง เช่น การติดเชื้อ เลือดออก เส้นประสาทถูกกดทับ อาการปวดหัว แพทย์จะอธิบายถึงความเสี่ยง และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นให้เข้าใจก่อนการผ่าตัด

การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดดึงไรผม

การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดดึงไรผม

การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดดึงไรผม มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผลลัพธ์ และระยะเวลาพักฟื้นที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดภาวะเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้ค่ะ

  • นอนหมอนสูง อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด จะช่วยให้แผลยุบบวมเร็วขึ้น
  • รับประทานยาแก้ปวด ตามแพทย์สั่ง หากมีอาการปวด บวม หรือช้ำ
  • งดการออกกำลังกาย อย่างน้อย 1 เดือนหลังการผ่าตัด เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนของแผล
  • ทำความสะอาดทุกวัน โดยใช้น้ำเกลือล้างแผล และทายาฆ่าเชื้อตามที่แพทย์สั่ง
  • สระผม เบา ๆ ด้วยแชมพูเด็กอ่อน โดยไม่เกาหนังศีรษะ และแชมพูให้แห้ง หลังผ่าตัดอย่างน้อย 2 วัน
  • งดการโดนแดด เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือนหลังการผ่าตัด
  • พบแพทย์ตามนัด เพื่อตรวจแผล และติดตามผลการรักษา

โดยทั่วไป คนไข้สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติภายใน 2 – 3 สัปดาห์หลังการผ่าตัด แต่อาจต้องใช้เวลาประมาณ 3 – 6 เดือน เพื่อให้แผลหายสนิท และผลลัพธ์ของการผ่าตัดชัดเจนขึ้น

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

  • อาการบวม ช้ำ เกิดขึ้นในช่วง 2 – 3 วันแรกหลังการผ่าตัด อาการจะค่อย ๆ ลดลง และหายไปภายใน 1 – 2 สัปดาห์
  • อาการชา บริเวณหน้าผาก อาจเกิดขึ้นชั่วคราว เนื่องจากการฉีดยาชา หรือเส้นประสาทถูกกระทบกระเทือน อาการชาจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปภายใน 6 – 12 เดือน
  • การติดเชื้อ เป็นผลข้างเคียงพบได้น้อย โดยแพทย์จะจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังการผ่าตัด 
  • การเกิดรอยแผลเป็น พบได้น้อยได้ในการผ่าตัดเลื่อนไรผม โดยแพทย์จะเลือกใช้เทคนิคการผ่าตัดที่ช่วยลดการเกิดแผลเป็น

สรุปการทำศัลยกรรมเลื่อนไรผม

ศัลยกรรมเลื่อนไรผมเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าผากกว้าง หน้าผากเถิก หรือหน้าผากสูง ซึ่งสามารถช่วยทำให้ใบหน้าดูสมส่วน  การผ่าตัดเลื่อนบริเวณไรผมสามารถเพิ่มความสมดุลให้กับใบหน้า ทำให้ดูอ่อนเยาว์ และดูมีเสน่ห์มากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้การจัดแต่งทรงผมง่ายขึ้น การผ่าตัดนี้จำเป็นต้องทำได้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า และมีความเสี่ยงต่ำ