ยกคิ้ว (Endoscopic Brow Lift)
ปัญหาของริ้วรอยและความร่วงโรยของผิวหนัง เนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยหน้าผาก รอยตีนกา รวมไปถึงปัญหาตาตกหรือหนังตาหย่อนจนกลายเป็นตาหลบใน การยกคิ้วจึงถือได้ว่าเป็นการศัลยกรรมแก้ไขเรื่องดวงตาอีกทางหนึ่ง ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ตาตกมาก (ซึ่งเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น) และผู้ที่ไม่มีระยะระหว่างคิ้วกับตา จึงต้องยกคิ้วก่อนจึงจะสามารถทำตาได้เพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ที่สุด
การยกคิ้วแบบดั้งเดิม เทคนิค DIRECT BROW LIFT
เป็นวิธีการผ่าตัดโดยการดึงผิวที่หย่อนคล้อยขึ้น ในกรณีที่เปลือกตามีความหย่อน โดยทั่วไปนั้น อาจจะนึกถึงวิธีการผ่าตัดศัลยกรรมเปลือกตาบน แต่ว่าการผ่าตัดชนิดนี้มีความแตกต่างจากการผ่าตัดศัลยกรรมตาบน
การศัลยกรรมยกคิ้ว เทคนิค DIRECT BROW LIFT คือ วิธีการผ่าตัดที่ไม่ต้องการเปลี่ยนเส้นตาสองชั้นที่มีอยู่เดิม หรือไม่ต้องการที่จะทำเส้นตาสองชั้นใหม่ เนื่องจากเป็นการกรีดบริเวณคิ้ว ลักษณะพิเศษของการผ่าตัดนี้คือ สามารถผ่าตัดได้แม้ผู้ที่มีเปลือกตาที่หนา แต่จะไม่ได้รับความนิยมเท่าใดนักเนื่องจากมีแผลผ่าตัดที่บริเวณใบหน้า ซึ่งสามารถเห็นแผลได้ชัดเจนหลังผ่าตัด ทั้งนี้รอยแผลจะค่อย ๆ จางลง ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
เทคนิคใหม่ “ยกคิ้วผ่านกล้อง”
การยกคิ้วเทคนิค (Endoscopic Brow Lift) เป็นการประยุกต์นำกล้องส่อง Endoscopic มาใช้ จึงไม่ต้องกรีดแผลยาว ทำให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กกว่าแบบเดิมมาก และยังเป็นการเพิ่มพื้นที่บริเวณรอบดวงตาทำให้ดวงตาดูโตขึ้น โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะกำหนดจุดเปิดปิดแผลเพื่อสอดกล้องประมาณ 3-5 จุด แต่ละจุดจะเป็นแผลขนาดเล็กประมาณ 3-4 ซม. โดยแผลจะซ่อนอยู่ตามแนวไรผมสังเกตได้ยาก และได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
การผ่าตัดโดยใช้กล้อง endoscopic มีข้อดีคือ มีอาการบวมค่อนข้างน้อย มีแผลขนาดเล็ก และเนื่องจากเป็นการผ่าตัดที่ต้องมีอุปกรณ์ช่วยและยกกระชับทั้งคิ้ว หน้าผาก นอกจากจะใช้ไหมทางการแพทย์เย็บเพื่อยึดล็อคกล้ามเนื้อแล้ว ทางมาสเตอร์พีซมีวัสดุแบบใหม่ที่เรียกว่า Endotine แทนการใช้ไหมละลายทั่วไป ซึ่งมีความปลอดภัยและยังกำจัดริ้วรอยที่หน้าผากและตาที่ตก เนื่องจาก Endotine สามารถยึดดึงเนื้อเยื่อได้ดี โดยวัสดุตัวนี้จะสามารถละลายกลายเป็นส่วนของร่างกายภายในหนึ่งปี และจะได้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
มาสเตอร์พีชมีทีมแพทย์มากประสบการณ์ ด้านการยกคิ้วด้วย Endotine และเป็นการผ่าตัดผ่านกล้อง
อายุน้อยทำได้หรือไม่ ?
หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่าการผ่าตัดยกคิ้วเหมาะกับคนที่อายุมากเท่านั้นหรือไม่ คำตอบคือ ไม่เป็นความจริง เนื่องจากในคนที่อายุยังน้อยก็อาจมีปัญหาที่การผ่าตัดยกคิ้วช่วยแก้ไขให้ได้เช่นกัน
ดวงตาสวยขึ้นดูเป็นธรรมชาติ
การศัลยกรรมยกคิ้วนั้นเป็นการดึงเปลือกตาที่หย่อนคล้อยขึ้น แก้ไขปัญหาระยะความกว้างของผู้ที่มีระยะคิ้วกับตาแคบจนทำให้ดูอึดอัด เป็นการผ่าตัดที่เหมาะสมกับผู้ที่ไม่ต้องการทำตาสองชั้น เนื่องจากหลังผ่าตัดผลลัพธ์ทำให้ดวงตาสวยขึ้นเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แบบ
เปลี่ยนสู่ใบหน้าที่ดูอ่อนโยน หวานขึ้น
เนื่องจากสามารถกำจัดริ้วรอยของเปลือกตาและแก้ไขในส่วนที่หย่อนคล้อยอย่างตรงจุด ทำให้ดวงตาดูโตขึ้น และจากใบหน้าที่ดูดุเนื่องจากอาการหย่อนยานของเปลือกตาหรือตาตก เปลี่ยนสู่ใบหน้าที่ดูละมุนละไมและอ่อนโยนอย่างเห็นได้ชัด
ไม่เห็นรอยแผลบนใบหน้า
มาสเตอร์พีซมีการผ่าตัดผ่านกล้องซึ่งแผลผ่าตัดจะซ่อนอยู่บนไรผม จึงทำให้ไม่เห็นรอยแผลผ่าตัดบนใบหน้า อีกทั้งระยะการพักฟื้นที่ค่อนข้างสั้น ทำให้สามารถกลับคืนสู่การใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็ว
พักฟื้นน้อยด้วยเทคนิคการผ่าตัดเฉพาะของทีมแพทย์มาสเตอร์พีซ
หลายท่านอาจมีความกังวลเรื่องการพักฟื้นหลังผ่าตัดยกคิ้วว่าจะมีอาการบวมช้ำนานหรือไม่ คำตอบคือ หลังผ่าตัดจะมีอาการบวมช้ำได้ตามปกติเหมือนการศัลยกรรมใบหน้าทั่วไป แต่เนื่องจากมาสเตอร์พีซมีการใช้เครื่องมือพิเศษ ได้แก่ การใช้กล้องในการผ่าตัดจึงทำให้แพทย์สามารถมองเห็นเนื้อเยื่อและเส้นเลือด เส้นประสาทภายในได้อย่างชัดเจน ช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บได้อย่างดีเยี่ยม จึงไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานหลังผ่าตัด
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
- แจ้งให้แพทย์ทราบข้อมูลโรคประจำตัว ยาโรคประจำตัว, ประวัติการผ่าตัด, ประวัติการแพ้ยา, ประวัติการแพ้อาหาร (หากมีประวัติการรักษาจากโรงพยาบาล ควรนำมาในวันปรึกษาด้วย) หรือแจ้งก่อนวันจองคิวผ่าตัด
- ผู้ป่วยที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือด และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ยาแก้ปวดกลุ่ม ยาโรคประจำตัวอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการผ่าตัดหรือแจ้งก่อนวันจองคิวผ่าตัด
- งดทานวิตามินอาหารเสริมต่าง ๆ ทุกชนิด เช่น วิตามินอี, น้ำมันปลา, ใบแปะก๊วย เมล็ดองุ่น โสม ฯลฯ ต้องหยุดยาอย่างน้อย 1 เดือน
- ควรสระผมให้สะอาดเรียบร้อยก่อนวันผ่าตัด และไม่แต่งหน้าในวันผ่าตัด งดใส่คอนแทคเลนส์ในวันผ่าตัด หากมีปัญหาด้านสายตาให้สวมแว่นสายตาแทน
- งดใส่เครื่องประดับทุกชนิด เช่น ต่างหู สร้อย แหวน จิลต่าง ๆ บนร่างกายในวันผ่าตัด (หากถอดออกไม่ได้ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ)
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัด เนื่องจากสารที่อยู่ในบุหรี่มีผลลดปริมาณออกซิเจนในเลือด และทำลายเซลล์ที่จะซ่อมแซมการหายของแผล มีผลทำให้เลือดที่จะมาหล่อเลี้ยงบริเวณที่ผ่าตัดลดลง โดยมีโอกาสให้ผิวหนังที่ผ่าตัดขาดออกซิเจน ทำให้แผลหายช้ากว่าปกติและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 วันก่อนผ่าตัด และต่อเนื่องอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- ก่อนการผ่าตัด คนไข้ต้องทำความสะอาดเล็บมือเล็บเท้าให้สะอาด งดการทาเล็บมือ, เล็บเท้า และงดการต่อเล็บทุกชนิด
- คนไข้ต้องเข้ามาทำการตรวจเลือดที่ รพ. อย่างน้อย 5-7 วันก่อนการผ่าตัด (กรณีไม่สะดวกเข้ามาเจาะเลือดที่ รพ. สามารถส่งผลตรวจเลือดมาได้)
- กรณีคนไข้ที่มีอายุเกิน 45 ปี ต้องมีผลตรวจสุขภาพและใบรับรองแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด (ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์)
- เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ควรตื่นเต้นมากเกินไป และควรทราบว่าหลังผ่าตัดย่อมเกิดการบวมช้ำบริเวณแผล และการเปลี่ยนแปลงของใบหน้าหรือบริเวณร่างกายที่ทำการผ่าตัด ซึ่งต้องใช้เวลาในการหายของแผลหรือความเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่
OBTIONAL (BY MTP PREMIUM)
Fibrin Glue คือ การผสมสาร 2 ชนิด คือ ไฟบริโนเจนและธรอมบิน ซึ่งสกัดมาจากเลือดเพื่อผสมกันในสัดส่วนที่พอดี จะแข็งตัวเป็นวุ้นใช้ปิดแผลที่เลือดออกให้หยุดไหลได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำเข้าจากประเทศออสเตรียและได้รับการรับรองความปลอดภัยจากอเมริกา USA
มีคุณสมบัติเป็นเหมือนกาวธรรมชาติ ใช้ปิดแผลผ่าตัด สามารถช่วยให้เลือดหยุดไหลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพกว่าปกติ เป็นตัวช่วยสมานแผลสำหรับการทำศัลยกรรมให้แผลหายเร็วขึ้น
การดูแลหลังผ่าตัด
- พักฟื้นประมาณ 2-3 ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่อาจมีอาการปวดเล็กน้อยเนื่องจากเป็นการผ่าตัด ซึ่งสามารถรับประทานยาแก้ปวดในการรักษาได้
- หลังผ่าตัดอาจมีอาการตึง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการทำหัตถการบริเวณศีรษะอยู่แล้ว โดยจะค่อย ๆ ดีขึ้นหายไปเอง
- หลังผ่าตัดอาจมีอาการบวม เขียว ช้ำ หรือระบมบริเวณที่หน้าผาก เปลือกตาบน หรือใต้ตาได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่แล้วอาการจะลดลงภายใน 2-4 สัปดาห์
- ในช่วงสัปดาห์แรกสามารถพบอาการตาแห้งหรือมีน้ำตาไหลอยู่ตลอดเวลาได้ ในบางรายอาจมีผลต่อการปิดตาเวลาหลับ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติเพราะเกิดจากอาการบวมและการดึงรั้งของผิวหนังในช่วงแรก อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นหลังจากที่ทำไปแล้วประมาณ 2-4 สัปดาห์
- หลังผ่าตัดเสร็จเจ้าหน้าที่พยาบาลจะพันผ้ารัดบริเวณศีรษะเอาไว้ ซึ่งจำเป็นต้องพันประมาณ 3 วันหลังการผ่าตัด
- หลังผ่าตัดสามารถล้างหน้าได้ตามปกติ แต่ต้องระวังไม่ให้แผลผ่าตัดถูกน้ำในช่วง 3 วันแรก โดยสามารถเริ่มสระผมเบา ๆ ได้หลังจากครบ 3 วันขึ้นไป
- ในช่วง 3 วันแรก แนะนำให้บรรเทาอาการบวมด้วยการประคบเย็น บริเวณหน้าผากและรอบดวงตาตลอด 24 ชั่วโมง แต่ถ้ายังมีอาการบวมอยู่สามารถประคบเย็นต่อได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 2-4 สัปดาห์
- เวลานอนแนะนำให้นอนหัวสูง ถ้าสามารถนอนในท่ากึ่งนอนกึ่งนั่งได้ยิ่งดี แต่ถ้าไม่สามารถนอนได้ให้นอนหนุนหมอน 2-3 ใบ จะช่วยลดอาการเขียวช้ำได้เป็นอย่างดี
- วิธีการนี้หลังการรักษา 1-2 สัปดาห์ ก็มาตัดไหมได้ แต่อย่างไรก็ตามบนใบหน้าก็จะมองไม่เห็นแผล แต่อาจจะมีเรื่องของอาการบวมบ้างเล็กหน่อยหลังการรักษา
- งดการทำงานหนักหรือการออกกำลังกายที่หนักที่ทำให้เกิดการกระทบกระเทือนในบริเวณศีรษะอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้เกิดแผลเป็น เกิดลิ่มเลือดและเลือดคั่งได้
- งดเว้นการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหายดี
ทำไมต้องยกคิ้ว ?
“ยกคิ้ว” บางคนอาจสงสัยว่ายกคิ้วคืออะไร ? เกี่ยวข้องกับการทำตา 2 ชั้นยังไง ? แล้วผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบไหน วันนี้เราจะมาไขคำตอบกันค่ะว่าทำไมถึงต้องยกคิ้วกันค่ะ
ยกคิ้วคืออะไร ?
“ยกคิ้ว” คือ การเพิ่มพื้นที่ระหว่างคิ้วกับดวงตา ทำให้มีที่ว่างระหว่างคิ้วกับดวงตามากขึ้น ช่วยแก้ไขปัญหาคิ้วตก หนังตาหย่อนคล้อยลงมาปิดดวงตา ส่งผลทำให้ดวงตาดูกลมโต สดใส
การทำตา 2 ชั้น และการยกคิ้วเกี่ยวข้องกัน !
แน่นอนว่าทุกคนอยากมีดวงตาที่สวย จึงอยากทำตาสองชั้น แต่ข้อสงสัยว่าทำไมจะทำตาสองชั้นแล้วต้องยกคิ้วด้วย ต้องบอกก่อนค่ะว่าแต่ละคนมีสรีระใบหน้าที่แตกต่างกันออกไป บางคนแค่ทำตาสองชั้นก็สามารถทำให้ตาสวยขึ้นได้ทันที แต่สำหรับบางคนที่มีปัญหาช่วงระหว่างตาและคิ้วค่อนข้างแคบ หากทำตา 2 ชั้น ยิ่งทำให้ช่องว่างระหว่างคิ้วกับดวงตายิ่งแคบลง ส่งผลทำให้ใบหน้าดูดุและแก่ลงได้เลยทีเดียวค่ะ
อยากตาสดใสแบบไอด้อลเกาหลีต้องยกคิ้ว !
เหตุผลอีกประการที่ต้องยกคิ้ว คือ องค์ประกอบของตาซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะระยะห่างของคิ้วกับตาที่ควรกว้างได้สัดส่วน ดูจากภาพประกอบด้านบนจะสังเกตว่าภาพฝั่งขวา ระยะห่างระหว่างตาและคิ้วดูสวยพอดี ตาดูสดใส ตาไม่ตก ส่วนภาพฝั่งซ้ายคิ้วดูต่ำ มองแล้วรู้สึกเหมือนขมวดคิ้วตลอดเวลา และเมื่ออายุมากขึ้นหนังตาและคิ้วก็จะตกลงมาซึ่งต่างจากฝั่งซ้ายโอกาสที่คิ้วจะตกลงมาน้อยกว่า
เปรียบเทียบเหล่าไอดอลเกาหลี หากช่องว่างระหว่างคิ้วแคบลง ทำให้ใบหน้าดูบึ้งตึง ไม่สดใส แถมดูมีอายุอีกด้วย
เป็นเรื่องจริงที่ทุกคนหนีไม่พ้นปัญหาคิ้วตก แน่นอนเมื่ออายุมากขึ้น คิ้วก็จะค่อย ๆ ตก หนังตาก็จะค่อย ๆ หย่อนคล้อย ขึ้นอยู่ว่าใครจะมีปัญหามากหรือน้อยกว่ากัน ส่งผลทำให้ใบหน้าดูแก่เกินวัยและดูไม่สดชื่นนั่นเอง
ความเข้าใจผิดๆ!
สำหรับคนที่มีหนังตาหย่อนคล้อย บางครั้งเราอาจไม่รู้ตัวว่าแท้จริงแล้วเรามีชั้นตา 2 ชั้น ที่มีความหนาแบบพอดี แต่เป็นเพราะหนังตาที่หย่อนคล้อยลงมาปิด ทำให้ชั้นตาของเราไม่ชัดเจนหรืออาจกลายเป็นชั้นตาชั้นเดียวได้เช่นกัน ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดที่ว่าต้องทำการแก้ไขด้วยการทำตา 2 ชั้น แต่ที่จริงแล้วนั้น เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุดเอาซะเลย เพราะต่อให้ทำตาสองชั้นไปแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานนัก หนังตาที่หย่อนคล้อยก็จะค่อย ๆ ลงมาปิดชั้นตาเช่นเดิม ดั้งนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงมักแนะนำวิธีการยกคิ้วร่วมกับทำตา 2 ชั้น หรือยกคิ้วเพียงอย่างเดียว เพราะจะช่วยแก้ไขปัญหาหนังที่หย่อนคล้อยและคิ้วที่ตกลงไปอยู่ในจุดที่ถูกต้อง ส่งผลโดยรวมทำให้ดวงตาออกมาสวยงามแบบธรรมชาติ ไม่ต้องกลัวปัญหาหนังตาตกอีกต่อไปแล้วล่ะคะ
หลังผ่าตัดไม่ค่อยมีรอยช้ำและไม่เห็นแผล
วิธีการผ่าตัดยกคิ้วในปัจจุบันนั้น นิยมใช้วิธีการผ่าตัดแบบ Endoscopic Brow Lift โดยมีการใช้กล้องผ่าตัดขนาดที่เล็กลงกว่าเดิม นอกจากช่วยลดริ้วรอยแผลเป็นแล้วยังเพิ่มความแม่นยำในการผ่าตัด ร่วมกับการใช้เครื่องมือพิเศษที่เรียกว่า Endotine Tranbleph ที่ใช้ดึงผิวหนังบริเวณคิ้วให้เรียบตึงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเครื่องมือชนิดนี้จะสามารถรวมและละลายกลายเป็นส่วนหนึ่งของรายกายได้ภายในหนึ่งปี อีกทั้งยังช่วยลดอาการบวมและทำให้ผลการดึงคิ้วมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เห็นชั้นตาที่ชัดเจนยิ่งขึ้น อีกทั้งแผลผ่าตัดจะซ่อนอยู่ภายใต้บริเวณไรผม มองเห็นได้ยาก
นอกจากนี้ การยกคิ้วยังสามารถทำให้ใบหน้าดูเด็กลงได้ สำหรับคนไข้ที่มี่อายุหรือมีปัญหาริ้วรอยร่องลึกทั่วบริเวณใบหน้า แพทย์จะแนะนำยกคิ้วร่วมกับการยก Mid Face ร่วมด้วย
การยกคิ้วจะดึงผิวหนังบริเวณหน้าผาก หากมีการยก Mid Face ร่วม แพทย์จะทำการดึงผิวหนังบริเวณตั้งแต่ช่วงขมับและโหนกแก้มร่วมด้วย ส่งผลโดยรวมทำให้ริ้วรอยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรอยเหี่ยวย่นใต้ตาหรือถุงใต้ตาที่เกินความจำเป็น หรือแม้แต่ริ้วรอยร่องแก้ม การยกคิ้วและการดึง Mid Face ร่วมด้วยนั้น จะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการฉีดหรือทำหัตถการใด ๆ ทั้งสิ้นบนใบหน้า รวมถึงยังมีระยะเห็นผลหลังการรักษาที่ยาวนานกว่าอีกด้วย ส่งผลทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนวัย ดูเด็กลงได้หลายปีเลยทีเดียวค่ะ
การยกคิ้วร่วมกับการยก MID FACE
จะเห็นได้ว่าการยกคิ้วนั้น เป็นหนึ่งในการศัลยกรรมตาที่ตอบโจทย์มากที่สุด และยังสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ถึง 4 ปัญหา ได้แก่ ปัญหาชั้นตาหลบใน หนังตาหย่อน หางตาตก และระยะคิ้วแคบ ด้วยการศัลยกรรมในครั้งเดียว แต่ทั้งนี้การยกคิ้วถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่จำเป็นต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพราะฉะนั้น ควรศึกษาหาข้อมูลก่อนศัลยกรรมและตรวจสอบข้อบกพร่องปัญหาของตนเองให้ดีก่อนศัลยกรรมนะคะ เพื่อให้ผลลัพธ์การรักษาออกมาแก้ไขได้อย่างตรงจุดและถูกใจเรามากที่สุด
โปรโมชั่น
[/vc_column_text]