รังแค สาเหตุ อาการ วิธีแก้ และการดูแลหนังศีรษะอย่างครบวงจร

รังแค เป็นปัญหาหนังศีรษะที่กวนใจใครหลายคน เนื่องจากจะทำให้มีเกล็ดหรือขุยสีขาวบนหนังศีรษะ ทั้งยังก่อให้เกิดอาการคัน จนต้องเกาศีรษะบ่อย ๆ ทำให้บุคลิกดูไม่ดี และทำให้หลายคนเสียความมั่นใจ อย่างไรก็ตาม รังแคสามารถแก้ไขได้ด้วยการดูแลหนังศีรษะอย่างถูกวิธี ในบทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรังแค ตั้งแต่สาเหตุของรังแค จนถึงอาการรังแค และวิธีแก้รังแค จะมีอะไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ

รังแคคืออะไร? เข้าใจสาเหตุและการเกิดรังแค

รังแค (Dandruff) คืออาการหนังศีรษะอักเสบรูปแบบหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง ถือเป็นปัญหาหนังศีรษะที่พบได้บ่อย โดยรังแคเกิดจากเซลล์หนังศีรษะลอกจนเป็นขุย หรือมีสะเก็ดสีขาวบนหนังศีรษะ ซึ่งจะก่อให้เกิดอาการคัน โดยสะเก็ดสีขาวจะสามารถพบได้ทั้งบริเวณเส้นผม โคนผม คิ้ว ไปจนถึงใบหู ในบางกรณีอาจหลุดร่วงลงมาบนเสื้อผ้า จนทำให้มองเห็นได้ชัด

สาเหตุหลักของรังแค ทำไมหนังศีรษะถึงเป็นขุย?

สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดรังแคบนหนังศีรษะ มีดังนี้

  • เชื้อราบนหนังศีรษะ: โดยทั่วไปบนหนังศีรษะจะมีเชื้อรา หรือยีสต์ ที่เรียกว่า Malassezia ซึ่งจะกินน้ำมันที่สร้างจากต่อมรากผมและต่อมไขมันเป็นอาหาร ในกรณีที่เชื้อราอยู่ในระดับปกติก็จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาอะไร แต่ถ้าหากเชื้อราเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จะทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิว จนก่อให้เกิดรังแคได้
  • หนังศีรษะแห้ง: หนังศีรษะแห้งจะส่งผลให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวอย่างรวดเร็ว ทำให้หนังศีรษะตกสะเก็ดและหลุดออกมาเป็นรังแคได้
  • หนังศีรษะมัน: หนังศีรษะมัน เป็นปัญหาที่เกิดจากต่อมไขมันใต้หนังศีรษะผลิตน้ำมันมากเกินไป และกระตุ้นเชื้อราบนหนังศีรษะให้เจริญเติบโตเร็วกว่าปกติ
  • โรคผิวหนัง: โรคผิวหนัง เช่น เซ็บเดิร์ม หรือสะเก็ดเงิน เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดรังแค อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เป็นโรคผิวหนัง แนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างจริงจัง
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม: การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมี อาจส่งผลให้หนังศีรษะเกิดการระคายเคือง และส่งผลให้เกิดรังแคได้
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน: พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการดื่มแอลกอฮอล์ การออกกำลังกายจนมีเหงื่อและไม่สระผม มีส่วนทำให้เกิดรังแคได้
  • ปัจจัยภายใน: ปัจจัยภายใน เช่น อายุ เพศ ฮอร์โมน ความเครียด รวมถึงพันธุกรรม ล้วนมีส่วนทำให้เกิดรังแค
  • ปัจจัยภายนอก: ปัจจัยภายนอก เช่น สภาพอากาศ อุณหภูมิ มลภาวะ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดรังแคได้

รู้ทันสัญญาณ รังแคมีลักษณะอย่างไร?

รังแค สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย โดยจะมีลักษณะเป็นสะเก็ดสีขาวหรือเหลือง เป็นแผ่นบาง ๆ หลุดออกมาจากหนังศีรษะ พบได้ที่เส้นผม หรือบนเสื้อผ้า ซึ่งจะก่อให้เกิดอาการคัน ในกรณีที่อักเสบ อาจส่งผลให้หนังศีรษะมันและแดง รวมถึงมีอาการบวมได้

ปรึกษาหมอฟรี

เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะอย่างไรให้เหมาะ

การเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะ แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม ดังนี้

  • Zinc Pyrithione: ช่วยลดเชื้อรา Malassezia ซึ่งเป็นต้นเหตุของรังแค
  • Coal Tar: น้ำมันดิน มีส่วนช่วยชะลอการผลัดเซลล์ผิว
  • Tea Tree Oil: ช่วยดูแลและควบคุมความมันบนหนังศีรษะ
  • Ketoconazole: เป็นยากำจัดเชื้อรา ช่วยลดจำนวนเชื้อรา Malassezia บนหนังศีรษะได้
  • Selenium Sulfide: ช่วยชะลอกระบวนการผลัดผิว และลดเชื้อรา Malassezia
  • Piroctone Olamine: มีส่วนช่วยลดเชื้อรา Malassezia
  • Aloe Vera: ให้ความชุ่มชื้นกับหนังศีรษะ และช่วยบรรเทาความระคายเคือง

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดรังแคแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือมีการระคายเคือง ควรหยุดใช้ และเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม

ปรับพฤติกรรมช่วยลดรังแค

การรักษารังแคด้วยตัวเอง สามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดังนี้

  • เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์: การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ และเหมาะกับสภาพศีรษะของแต่ละคน เช่น ซิงค์ วิตามินบี กรดไขมันโอเมก้า 3 ล้วนมีผลดีต่อต่อมไขมัน ช่วยปรับสภาพหนังศีรษะได้เป็นอย่างดี
  • ลดความเครียด: ความเครียด เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดรังแคได้ ดังนั้น การหาวิธีจัดการกับความเครียด จะช่วยลดรังแคและมีผลต่อหนังศีรษะ
  • สระผมอย่างถูกวิธี: การสระผม เป็นขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลต่อน้ำมันบนหนังศีรษะ ดังนั้น จึงควรสระผมอย่างถูกวิธี แนะนำให้สระผมสัปดาห์ละ 3 ครั้ง โดยใช้น้ำอุณหภูมิปกติ เนื่องจากการใช้น้ำร้อนอาจทำให้หนังศีรษะแห้ง และควรนวดหนังศีรษะอย่างนุ่มนวล ไม่ควรเกาแรง ๆ
  • หลีกเลี่ยงสารเคมี: สารเคมี เช่น น้ำยาย้อมผม ครีมยืดผม ครีมดัดผม ล้วนส่งผลให้หนังศีรษะเกิดการระคายเคือง จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี
  • ดูแลเส้นผมอย่างนุ่มนวล: การดูแลเส้นผมอย่างนุ่มนวล แนะนำให้หลีกเลี่ยงการเกาศีรษะและหวีผมแรง ๆ เนื่องจากจะทำให้รากผมถูกทำลาย จนมีอาการผมร่วงตามมาได้
  • รักษาความสะอาด: แนะนำให้มีการดูแลหนังศีรษะให้สะอาด เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคหรือแบคทีเรีย

สารอาหารลดรังแคที่คุณควรกิน

อาหารที่มีประโยชน์ มีส่วนในการช่วยลดรังแคได้ โดยอาหารที่ช่วยป้องกันรังแค มีดังนี้

  • อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3: อาหารที่มีไขมันโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพหนังศีรษะ ทั้งยังลดอาการคันและระคายเคือง
  • อาหารที่มี Zinc: อาหารที่มีสังกะสี เช่น เนื้อสัตว์ ถั่วและเมล็ดพืช เมล็ดฟักทอง ถั่วเหลือง ล้วนช่วยบำรุงผิวหนังให้มีสุขภาพดี และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างเต็มที่
  • อาหารที่มีวิตามิน B: อาหารที่มีวิตามิน B เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโพด กล้วย อะโวคาโด มีส่วนช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันในหนังศีรษะ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดรังแค
  • อาหารที่มี Selenium: เนื้อปลา เช่น ปลาทู ปลาดุก เนื้อปู หอยแมลงภู่ มีซิลิเนียม ซึ่งจะช่วยควบคุมรากผมให้ทำงานปกติ
  • อาหารที่มีวิตามิน D: แซลมอน ทูน่า ปลาซาร์ดีน มีวิตามิน D ซึ่งช่วยปรับสมดุลภูมิคุ้มกัน และลดการเกิดรังแคจากผิวหนังอักเสบได้เป็นอย่างดี

เมื่อไหร่ควรพบแพทย์?

โดยทั่วไป รังแคไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ เนื่องจากสามารถควบคุมอาการได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีอาการบวมแดง หรือรักษารังแคมากกว่า 1 เดือน และอาการยังไม่ดีขึ้น ควรเข้าพบแพทย์ เนื่องจากอาจเป็นโรคผิวหนังศีรษะที่มีอาการใกล้เคียงกับรังแค ควรให้แพทย์วินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และเข้ารับการรักษาที่เหมาะสม

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

รังแค ไม่สามารถติดต่อกันได้ เนื่องจากรังแคเกิดจากปัจจัยภายในร่างกาย เช่น หนังศีรษะมัน หนังศีรษะแห้ง เชื้อราบนหนังศีรษะ รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคน

รังแค สามารถควบคุมและลดอาการได้ แต่อาจไม่หายขาด เนื่องจากรังแคสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ในกรณีที่สาเหตุของรังแคยังคงอยู่ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่รังแคสร้างความรำคาญใจ หรือส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากเกินไป แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษา

รังแค มีส่วนทำให้ผมร่วง เนื่องจากรังแคจะก่อให้เกิดอาการคัน และทำให้ต้องเกาหนังศีรษะ ซึ่งการเกาศีรษะอย่างรุนแรงจะทำให้หนังศีรษะเป็นแผล และทำลายรากผม จนทำให้รากผมไม่แข็งแรง และอาจมีปัญหาผมร่วงได้

การใช้แชมพูขจัดรังแค ควรประเมินจากปัญหาของแต่ละคน ควบคู่กับชนิดของแชมพู เนื่องจากในกรณีที่มีปัญหารังแคไม่มากนัก การใช้แชมพูขจัดรังแคทุกวันอาจส่งผลให้หนังศีรษะแห้งหรือระคายเคืองได้ แนะนำให้ใช้แชมพูขจัดรังแคสลับกับแชมพูบำรุงผม เพื่อสุขภาพเส้นผมที่ดี

สรุป

รังแค เป็นปัญหากวนใจที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง จนทำให้หลายคนเสียความมั่นใจ ในเบื้องต้นแนะนำให้มีการปรับเปลี่ยนแนวทางการใช้ชีวิต เช่น เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ รักษาความสะอาด ลดพฤติกรรมทำร้ายเส้นผม เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับหนังศีรษะและช่วยแก้ปัญหารังแคโดยตรง อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่รักษารังแคมามากกว่า 1 เดือน แต่อาการยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้เข้าพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์หาสาเหตุที่แท้จริง และทำการรักษาอย่างเหมาะสม

แหล่งอ้างอิง

https://www.nhs.uk/conditions/dandruff/

https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC6919596/

บทความโดย

เราคือโรงพยาบาลศัลยกรรมด้านความงามของประเทศไทยและเอเชีย มีความต้องการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนเกี่ยวกับบริการศัลยกรรมด้านความงาม โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ดูแลคุณตั้งแต่การให้คำปรึกษาไปจนถึงหลังการผ่าตัด โดยทีมแพทย์มากประสบการณ์ที่มีประสบการณ์ มอบบริการครบวงจรด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดำเนินการภายใต้มาตรฐานการรักษาพยาบาล ของโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการให้บริการสถานพยาบาลระดับสากล AACI

ข้อมูลการติดต่อโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช
ตั้งอยู่ที่ 99/19 ถนนสุไขทัย แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300

แชร์เลย:
register