ปากกาลดน้ำหนัก Saxenda พลิกโฉมนวัตกรรม การลดน้ำหนัก

หน้าท้องแบนราบของหญิงสาว กับข้อความ Saxenda พลิกโฉมนวัตกรรม การลดน้ำหนัก

วันที่อัพเดตล่าสุด: 5 July 2024

Saxenda

Saxenda พลิกโฉมวงการ ยาลดความอ้วน ด้วยปากกาฉีดลดน้ำหนัก วิธีลดน้ําหนัก เร่งด่วน เห็นผลทันใจใน 1 เดือน นวัตกรรมลดน้ำหนักจาก โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช

Saxenda  ปากกาลดน้ำหนัก ตัวช่วยพิเศษที่ทำให้คุณสามารถลดน้ําหนักง่ายๆ แบบเร่งด่วนเพียงแค่ใช้ฉีด นอกจากนี้ Saxenda ยังเป็น ยาฉีดลดความอ้วน สัญชาติสวีเดน ที่ได้รับการรับรองจากทั้ง USFDA ( องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ), EMA ( องค์การยาสหภาพยุโรป ), KFDA (องค์การอาหารและยาเกาหลีใต้), THFDA ( องค์การอาหารและยาแห่งประเทศไทย ) การันตีด้วยรางวัลยาลดน้ำหนักยอดขายอันดับ 1 กว่า 13 ประเทศทั่วโลก และส่วนแบ่งการตลาดยาลดน้ำหนักถึง 40.5% ทั่วโลก 

ปากกาลดน้ำหนัก Saxenda วางเรียงกัน 2 อัน

ปากกาลดน้ำหนัก Saxenda คืออะไร ?

Saxenda เป็น ยาฉีดลดความอ้วน ที่มี ‘ ลิรากลูไทด์ ( Liraglutide ) ’ เป็นสารออกฤทธิ์ โดยสารชนิดนี้เป็น เปปไทด์ โปรตีน ที่คล้าย GLP-1 ซึ่งมีอยู่แล้วในร่างกาย ที่จะส่งผลให้ร่างกายของเราไม่ค่อยหิว ทำให้เราสามารถควบคุมอาหารได้ดีขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ตัวเปปไทด์ GLP-1 จะสามารถถูกย่อยสลายโดยลำไส้ของเราได้เอง ทำให้ไม่เกิดการตกค้างภายในร่างกาย

* ผลจากการศึกษา และทดลองการลดน้ำหนักด้วย Saxenda Program

จากผลการศึกษาพบว่าสามารถลดน้ำหนักได้กว่า 9.2% และสามารถลดรอบเอวได้ถึง 8.2 เซ็นติเมตร หรือประมาณ 4 นิ้ว พบว่าจำนวนคนส่วนใหญ่ น้ำหนักลดลงประมาณ 3 – 4 กิโลกรัม เมื่อใช้ยาต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือน 

 * ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุของความอ้วน มวลไขมันในร่างกาย และความต่อเนื่องในการใช้ยา

หน้าท้องแบนราบมีสายวัดพันรอบเอว กับปากกาลดน้ำหนัก Saxenda

จุดเด่นยาฉีดลดความอ้วน Saxenda

โดย ปากกาลดน้ำหนัก Saxenda จะทำให้คุณรู้สึกอิ่ม และหิวน้อยลง ซึ่งเป็นจุดเด่นของยาฉีดลดความอ้วนชนิดนี้ เพราะนอกจากนี้จะทำให้รับประทานอาหารน้อยลง ยังช่วยให้คุณสามารถควบคุมอาหารได้ดีขึ้นอีกด้วยนั่นเอง

  • ด้วยกลไกการลดน้ําหนัก ที่ทำงานแบบ x2
    1.  ช่วยปรับพฤติกรรมการกิน โดยยาจะออกฤทธิ์ทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว ยับยั้งความรู้สึกหิว
    2.  กระตุ้นให้ทางเดินอาหารเคลื่อนไหวช้า ทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็วขึ้น
  • ไม่มีผลต่อระบบประสาท
  • ไม่ทําให้เกิด Yoyo Effect
  • ยาไม่ผ่านตับและไต มีความปลอดภัยสูงในการใช้ร่วมกับยาอื่นๆ
  • ใช้ง่าย แค่ฉีดวันละครั้ง ผลข้างเคียงน้อย ไม่กระทบชีวิตประจำวัน
  • ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรังอื่นๆ ได้อีกด้วย
  • เป็นยาที่ถูกสั่งจ่าย และต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
ผู้หญิงอ้วนท่าทางเครียดให้มือขวากุมขมับ มือซ้ายจับหน้าท้องที่แผละออกมา

ปากกาลดน้ำหนัก Saxenda เหมาะกับใครบ้าง ?

ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปที่มีปัญหาโรคอ้วน รวมถึงผู้ที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) เท่ากับ 30 หรือมากกว่า (ภาวะอ้วน) หรือ ดัชนีมวลกาย (BMI) เท่ากับ 27 หรือน้อยกว่า 30 (ภาวะน้ำ หนักเกิน) และมีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับ น้ำหนัก (เช่น เบาหวาน ความดัน โลหิตสูง ระดับไขมัน ในเลือดผิดปกติหรือปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ ระหว่างนอนที่เรียกว่า ‘ภาวะหยุดหายใจในขณะนอนหลับเนื่องจากการอุดกั้น ทางเดินหายใจ’) 

ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index) เป็นการวัดน้ำหนัก ที่สัมพันธ์ กับส่วนสูงของคนไข้ จะใช้ Saxenda ต่อได้ก็ต่อเมื่อน้ำหนักตัวของท่านลดลงอย่างน้อยร้อยละ 5 ของน้ำหนักตอนเริ่มต้น หลังจากที่ได้รับยาในขนาด 3 มิลลิกรัม/วัน ครบ 12 สัปดาห์

รวมถึงผู้ที่มีปัญหาแทรกซ้อนเนื่องมาจากน้ำหนักเกินกว่าค่า BMI จนส่งผลให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง รวมถึงระดับไขมันในกระแสเลือด และภาวะหยุดหายใจ ฯลฯ ซึ่งการลดน้ําหนักนั้น จะส่งให้อาการของโรคดังกล่าวดีขึ้น

นอกจากจะทำให้เราหุ่นดีแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพของเราอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น การลดน้ำตาลในเลือด ความดันลดลง ลดการหยุดหายใจขณะหลับ ส่งผลทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น

ปากกาลดน้ำหนัก Saxenda เทียบกับยาลดความอ้วน

ปากกาลดน้ำหนัก Saxenda แตกต่างจากยาลดความอ้วนทั่วไปอย่างไร ?

โดยสำหรับ Saxenda เป็น ยาฉีดลดความอ้วน ที่มีความปลอดภัยสูง และได้รับการการันตีจาก USFDA , EMA , KFDA , THFDA แล้ว ตัวยาไม่ส่งผลต่อระบบประสาท หรือทำให้เกิดอาการข้างเคียงแบบยาลดน้ำหนักทั่วๆ ไป 

ทั้งนี้ยาฉีดลดความอ้วน Saxenda ของเรายังไม่มีส่วนประกอบที่มีในตัวยาที่ใช้รักษาอาการต่างๆ เช่น ยาลดอัตราการเต้นของหัวใจ ยาลดฮอร์โมนในผู้ป่วยที่เป็นไทรอยด์ เป็นต้น ดังนั้นผู้ใช้สามารถวางใจได้ว่าไม่ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพ

ซึ่งโดยปกติยาลดความทั่วๆ ไป จะมีเอฟเฟคที่ส่งผลต่อระบบประสาท และร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ความดันต่ำ นอนไม่หลับ รวมถึงอาการหงุดหงิด รวมถึงมีส่วนประกอบของยาเบาหวาน ยาดลดความดันโลหิต 

ขั้นตอนการปากกาลดน้ำหนัก Saxenda

ขั้นตอนการใช้ปากกาลดน้ำหนัก Saxenda

  1. ตำแหน่งที่ควรใช้ยาฉีดลดความอ้วน Saxenda
  2. ตำแหน่งที่เหมาะสมในการฉีด ได้แก่ บริเวณหน้าท้อง ต้นขาด้านหน้า หรือต้นแขน เป็นต้น
  3. โดยข้อควรระวังคือ ไม่ควรฉีดเข้าหลอดเลือดดำ หรือกล้ามเนื้อ

ปากกาลดน้ำหนัก Saxenda สามารถลดไขมันส่วนใดบ้าง ?

เนื่องจากปากกาลดน้ำหนัก ‘Saxenda ’ อยู่ในรูปแบบของยาฉีดลดความอ้วนแบบเข็ม จึงทำให้คนมักเข้าใจผิดว่าหากฉีดเข้าไปบริเวณใดแล้วไขมันบริเวณนั้นก็จะลดลง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วยาตัวนี้ ไม่ใช่ยาลดไขมันเฉพาะส่วน แต่จะช่วยในเรื่องของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน โดยจะออกฤทธิ์ทำให้รู้สึกอิ่ม ลดความอยากอาหารลง เมื่อเรารับประทานน้อยลงแล้ว จะส่งผลทำให้ไขมันตามส่วนต่างๆ ในร่างกายลดลง ( โดยบริเวณหน้าท้องอาจจะลดก่อนบริเวณอื่นๆ )

สามารถลดน้ำหนักได้ทั้ง 2 แบบ

Subcutaneous Fat คือ ไขมันที่เราสัมผัสได้ โดยเป็นไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง เช่น หน้าท้อง สะโพก โคนขา ฯลฯ ซึ่งเป็นไขมันที่ทำให้เราดูอ้วนได้ เนื่องจากมีปริมาณมากที่สุดของไขมันทั้งหมดในร่างกายเลยทีเดียว

Visceral Fat คือ ไขมันที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ โดยเป็นไขมันที่เกาะตามอวัยวะต่างๆ ภายในช่องท้อง เช่น ตับ ตับอ่อน ลำไส้ ฯลฯ หากสะสมมากๆ อาจเป็นบ่อเกิดของโรคต่างๆ ได้

ส่วนประกอบของตัวยาฉีดลดความอ้วน Saxenda

สารออกฤทธิ์หลัก >> Liraglutide

ส่วนประกอบอื่นๆ >> Disodium Phosphate, Propylene Glycol, Hydrochloric Acid, Sodium Hydroxide, Water

ก่อนใช้ Saxenda เตรียมตัวอย่างไร ?

หากมีโรคประจำตัวหรือประวัติแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน และไม่แนะนำสำหรับผู้มีภาวะต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • ห้ามใช้ในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว
  • ผู้ที่เป็นโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิด Medullary ( MTC )
  • ผู้ที่เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบต่อมไร้ท่อ
  • ผู้ที่เป็นโรคไตในระยะ 4 – 5
มือหยิบหน้าท้องที่อ้วนออกมา กับข้อความ ข้อแนะนำระหว่างใช้ ปากกาลดน้ำหนัก Saxenda ?

ข้อแนะนำระหว่างใช้ ปากกาลดน้ำหนัก Saxenda ?

  • ฉีดวันละ 1 ครั้ง เวลาใดก็ได้ ( แนะนำควรฉีดในเวลาเดียวกันทุกวัน )
  • บริเวณที่แนะนําให้ฉีด ได้แก่ หน้าท้อง, สะโพก, ต้นแขน, ต้นขา
  • ปริมาณยาเป็น Escalation dose เริ่มต้นที่ 0.6 มิลลิกรัม ค่อยเพิ่มขึ้นจนถึง 3.0 มิลลิกรัม
หน้าท้องแบนราบ กับข้อความ หลังใช้ saxenda ควรปฏิบัติตัวอย่างไร

หลังใช้ Saxenda ปฏิบัติตัวอย่างไร ?

  • ควรรับประทานอาหารครั้งละน้อยๆ
  • ควรหยุดรับประทานอาหารเมื่อรู้สึกอิ่ม
  • หลีกเลี่ยงอาหารติดมันหรือของทอด
  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ 
ปากกาลดความอ้วน Saxenda

ปริมาณการใช้ยาฉีดลดความอ้วน Saxenda ?

ขนาดยาที่แนะนำให้เริ่มต้นคือ 0.6 – 3.0 มิลลิกรัม ซึ่งในช่วง 5 สัปดาห์แรกของการรักษา ควรเริ่มต้นด้วยการฉีดยาในปริมาณน้อยๆ ก่อน โดยสัปดาห์แรกให้เริ่มขนาดที่ 0.6 มิลลิกรัม แล้วเพิ่มขนาดยาตามลำดับเป็น 1.2, 1.8, 2.4, 3.0 มิลลิกรัมในแต่ละสัปดาห์ เมื่อได้รับยาขนาดที่ 3.0 มิลลิกรัม ในสัปดาห์ที่ 5 ให้ฉีดในปริมาณนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสิ้นสุดการรักษา

* ทั้งนี้แพทย์อาจเป็นผู้แนะนำว่าคนไข้จะต้องฉีดในปริมาณเท่าใดในแต่ละสัปดาห์

วิธีเก็บรักษาตัวยา

ก่อนเปิดใช้ : เก็บในตู้เย็นอุณหภูมิ 2-8 องศา ห้ามแช่ช่องฟรีซ

หลังเปิดใช้ : เก็บในตู้เย็นอุณหภูมิ 2-8 องศา หรือ อุณหภูมิห้องไม่เกิน 30 องศา และควรปิดฝาทุกครั้งหลังใช้ ( ยามีอายุ 30 วัน ดังนั้นควรใช้ให้หมดภายใน 30 วัน )

จำลองกระเพาะอาหารและสารต่าง ๆ ในกระเพาะอาหาร

ผู้ที่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ ปากกาลดน้ำหนัก Saxenda

  • คนที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวรุนแรง
  • คนที่แพ้ยาลิรากลูไทด์ (Liraglutide) หรือส่วนประกอบอื่นๆ ในยาตัวนี้
  • คนที่เป็นโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ หรือมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิดเมดัลลารี (Medullary thyroid carcinoma (MTC)) 
  • คนที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบต่อมไร้ท่อที่เรียกว่ากลุ่มเนื้องอกของต่อมไร้ท่อหลายต่อมชนิดที่ 2 (Multiple Endocrine Neoplasia sysndrome type 2 (MEN 2))
  • คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารหรือลำไส้อย่างรุนแรง หรือเป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory Bowel Disease (IBD))
  • คนที่เคยเป็นโรคเกี่ยวกับตับอ่อน ถุงน้ำดีอักเสบ ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ทุกครั้ง 
สองมือกำลังจับหน้าท้องที่อ้วนยื่นออกมา กับข้อความ การฉีดปากกาลดน้ำหนัก Saxenda  เจ็บหรือไม่

การฉีดปากกาลดน้ำหนัก Saxenda  เจ็บหรือไม่

ความรู้สึกที่ฉีดครั้งแรกอาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย เพราะการฉีดปากกาลดน้ำหนัก Saxenda ต้องฉีดที่บริเวณหน้าท้อง แต่เมื่อฉีดจนเคยชินแล้วก็อาจไม่รู้สึกเจ็บหรือรู้สึกเหมือนมดกัด แนะนำว่าอย่าเกร็งเวลาฉีดยาเพื่อจะได้รู้สึกเจ็บน้อยลง และหลังฉีดยาถ้ามีอาการเจ็บหรือปวดมาก ก็สามารถกินยาแก้ปวดบรรเทาอาการได้

แชร์เลย:

Similar Posts