ข้อปฏิบัติหลังฉีด filler ควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดี และอยู่กับเราได้นานที่สุด

ข้อปฏิบัติหลังฉีด filler ควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดี และอยู่กับเราได้นานที่สุด

หนึ่งในสิ่งที่คนฉีดฟิลเลอร์ไม่ควรมองข้าม คือข้อปฏิบัติหลังฉีด filler เพราะข้อปฏิบัติเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ทั้งยังทำให้ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพ ได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการอีกด้วย ในบทความนี้จะมาแนะนำข้อปฏิบัติหลังฉีด filler เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังจากฉีด filler ให้มากขึ้น

ข้อปฏิบัติหลังฉีด filler

ข้อปฏิบัติหลังฉีด filler

สำหรับข้อปฏิบัติหลังฉีด filler จะแบ่งเป็นช่วงต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจและสามารถรับมือกับอาการที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงได้อย่างเหมาะสม ดังนี้

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ทันที

หลังจากฉีดฟิลเลอร์เสร็จทันที อาจมีอาการช้ำ บวมแดง รวมถึงคันได้ ซึ่งเป็นอาการปกติ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัส และหลังจากผ่านไป 2-3 วัน อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไป อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่อาการยังไม่หายไป อาจปรึกษาแพทย์เพื่อรับยามาทาน

สำหรับใครที่ไม่ได้ทานยาฆ่าเชื้อก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรทานทันทีหลังจากฉีดฟิลเลอร์ทันที และสำหรับใครที่ต้องการแต่งหน้า หลังจากฉีดฟิลเลอร์ 1 ชั่วโมง จะสามารถดึงปลาสเตอร์ออกและแต่งหน้าได้ แต่แนะนำให้หลีกเลี่ยงบริเวณรูเข็มฟิลเลอร์ หากมีอาการผิดปกติใด ๆ ควรให้แจ้งแพทย์ทันที

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ 3 – 48 ชั่วโมง

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ 3 ชั่วโมง: หลังจากฉีดฟิลเลอร์ 3 ชั่วโมง ไม่ควรประคบเย็น เนื่องจากหากประคบผิดวิธี อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อน และไม่เกาะผิวได้ แพทย์จะแนะนำให้ประคบเย็นเป็นบางกรณีเท่านั้น ถ้าหากต้องการล้างหน้า สามารถล้างด้วยสบู่อ่อน ๆ ได้ แต่ข้อควรรู้คือรอยเข็มฟิลเลอร์สามารถโดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาทีเท่านั้น ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำไปก่อนในช่วง 3 ชั่วโมงแรก
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ 6 ชั่วโมง: หลังจากผ่านไป 6 ชั่วโมง ยาชาจะเริ่มหายบวม ในกรณีที่บางจุดยังบวมอยู่ จะเริ่มสามารถประคบเย็นได้ แต่แนะนำให้ประคบอย่างนุ่มนวล ไม่กดแรง ๆ
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมง: หลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมง จะเริ่มมีอาการบวมเข็มมากขึ้น แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะหลังจากผ่านไป 1-2 สัปดาห์ อาการบวมเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไป
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ 48 ชั่วโมง: หลังจากผ่านไป 48 ชั่วโมง แนะนำให้หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย, ตากแดด หรือดื่มแอลกอฮอล์ ควรอยู่ในที่อากาศเย็น เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์สลาย

การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ 3-14 วัน

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ 3 วัน: หลังจากฉีดฟิลเลอร์ 3 วัน อาการบวมช้ำ รวมถึงรอยแดงจะค่อย ๆ ดีขึ้น ฟิลเลอร์จะเข้าที่ประมาณ 90%  ทั้งยังสามารถขยับใบหน้าได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าไม่ควรขยับใบหน้าเยอะเกินไป และไม่ควรนวดกดแรง ๆ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้ ถ้าหากมีอาการผิดปกติ หรืออาการบวมช้ำไม่ดีขึ้น ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ 7 วัน: หลังจากฉีดฟิลเลอร์ 7 วัน รอยเขียวช้ำจะค่อย ๆ จางลงเรื่อย ๆ บางกรณีอาจพบฟิลเลอร์เป็นก้อน แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะเป็นอาการบวมเข็ม และหลังจากผ่านไป 2-3 สัปดาห์จะค่อย ๆ หายไปเอง
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ 14 วัน: หลังจากฉีดฟิลเลอร์ 14 วัน อาการบวมจะหายไปเกือบทั้งหมด ตัวฟิลเลอร์จะนุ่มและกลืนกับผิว สามารถออกกำลังกาย และทานอาหารได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ยังคงหลีกเลี่ยงความร้อน เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายได้

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ 1 เดือน

หลังจากผ่านไป 1 เดือน จะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และเห็นผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ชัดเจน สำหรับการดูแลตัวเองหลังจากนี้แนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูป เนื่องจากตัวฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ การดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดระยะเวลาฟิลเลอร์ให้นานขึ้นได้

ปรึกษาหมอฟรี
ข้อปฏิบัติหลังฉีด filler ใต้ตา

ข้อปฏิบัติหลังฉีด filler ใต้ตา

โดยทั่วไปหลังจากฉีด filler ใต้ตา จะมีอาการบวมประมาณ 2-3 วัน และจะหายไปเอง ในกรณีที่ไม่หาย ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที สำหรับข้อปฏิบัติหลังฉีด filler ใต้ตา จะมีดังนี้

  • แนะนำให้หนุนหมอนที่ศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ และไม่นอนตะแคง
  • แนะนำให้หาหมอนข้างมากันไว้ทั้งซ้ายและขวา หลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อป้องกันการกดทับใบหน้า
  • งดกดนวดบริเวณดวงตา เนื่องจากอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้
  • แนะนำให้ดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูป และคงสภาพอยู่ใต้ชั้นผิวได้นานขึ้น
  • แนะนำให้ทานยาตามที่แพทย์แนะนำอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดอาการบวม และป้องกันการติดเชื้อ
  • กรณีที่มีอาการผิดปกติใด ๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ และเข้าพบแพทย์ทันที

ข้อปฏิบัติหลังฉีด filler ร่องแก้ม

หลังจากฉีด filler ร่องแก้ม จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ซึ่งในส่วนของข้อปฏิบัติหลังฉีด filler ร่องแก้ม ข้อปฏิบัติของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันออกไป โดยแพทย์จะแนะนำข้อปฏิบัติที่เหมาะสม เช่น บางกรณีแพทย์อาจแนะนำให้ประคบเย็น ซึ่งถ้าหากประคบเย็นก็ไม่ควรกดแรง เป็นต้น นอกจากนี้โดยทั่วไปหลังฉีด filler ร่องแก้มจะมีอาการปวดเป็นเรื่องปกติ และจะค่อย ๆ หายไปภายใน 2-3 วัน แต่ถ้าหากผ่านไป 3 วันแล้วยังไม่หายปวดบวม แนะนำให้แจ้งแพทย์ทันที

ข้อปฏิบัติหลังฉีด filler ขมับ

การฉีดฟิลเลอร์ขมับ จะช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น โดยสำหรับข้อปฏิบัติหลังฉีด filler ขมับ แนะนำให้ดูแลตัวเอง โดยการไม่กดนวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ และแนะนำให้หลีกเลี่ยงการนอนกดทับบริเวณขมับ เนื่องจากอาจทำให้ปวดศีรษะได้ อย่างไรก็ตาม อาการปวดศีรษะ เป็นอาการทั่วไปของการฉีดฟิลเลอร์ขมับ เนื่องจากขมับเป็นจุดรวมเส้นประสาท จึงไวต่อความรู้สึกได้ง่าย กรณีที่ปวดศีรษะมาก อาจสามารถทานยาแก้ปวดได้

ข้อปฏิบัติหลังฉีด filler ปาก

การฉีดฟิลเลอร์ปาก จะช่วยให้ปากชุ่มชื้นขึ้น สำหรับข้อปฏิบัติหลังฉีด filler ปาก แนะนำให้ดูแลตัวเอง โดยการดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ฟิลเลอร์ฟูและคงสภาพ, หลีกเลี่ยงของร้อน, 12 ชั่วโมงแรก ควรงดหลอดดูดน้ำ ทาลิปสติก การสูบบุหรี่ รวมถึงหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณปาก เพระอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนหรือเสื่อมสภาพได้

ข้อห้ามหลังฉีด filler คาง

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์คาง จะมีวิธีการดูแลไม่ต่างจากการฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณอื่น แต่จะมีข้อห้ามหลังจากฉีด filler คางที่ค่อนข้างละเอียด และไม่ควรละเลย เช่น ไม่ควรสัมผัสบริเวณที่ฉีด, ห้ามกด นวด หรือปั้นทรงเอง โดยเฉพาะช่วง 2 สัปดาห์แรกที่ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ เพราะจะทำให้คางเสียทรงได้, หลีกเลี่ยงการเท้าคาง, งดสวมหมวกกันน็อคแน่น ๆ และงดการนอนคว่ำ เพราะอาจเกิดการกดทับได้

หลังฉีด filler ห้ามกินอะไรบ้าง

หลังฉีด filler ห้ามกินอะไรบ้าง

นอกจากข้อปฏิบัติหลังฉีด filler อาหารก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ออกมาตรงตามความต้องการ โดยอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังจากฉีดฟิลเลอร์ จะเป็นอาหารประเภทหมักดอง, อาหารรสจัด, อาหารร้อน, อาหารดิบ รวมถึงไปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เนื่องจากอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการบวมช้ำ รวมถึงอักเสบ ติดเชื้อ แนะนำให้เลือกทานเป็นโปรตีน และผักใบเขียว รวมถึงดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่ได้เร็ว และลดอาการต่าง ๆ

ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน

โดยทั่วไปผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ได้นาน 6-12 เดือน อย่างไรก็ตาม การสลายของฟิลเลอร์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ยี่ห้อฟิลเลอร์, ตำแหน่งที่ฉีด รวมไปถึงวิธีการดูแลตัวเองของแต่ละคน ยิ่งดูแลตัวเองดี ก็จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น ดังนั้น ข้อปฏิบัติหลังฉีด filler จึงเป็นสิ่งสำคัญ แนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อยืดระยะเวลาของฟิลเลอร์

ควรเติมฟิลเลอร์ทุกกี่เดือน

สำหรับการเติมฟิลเลอร์ สามารถเติมได้เรื่อย ๆ โดยไม่มีอันตราย เนื่องจากฟิลเลอร์จะสลายไปทีละนิดหลังจากฉีด อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ร่วมด้วย เพื่อให้แพทย์แนะนำการฉีด ทำให้ได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ สำหรับใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช มีฟิลเลอร์ให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ มั่นใจได้ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในเบื้องต้นทีมแพทย์โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชพร้อมให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

แชร์เลย:
register