เสริมหน้าผากแบบไหนให้ปัง พร้อมอัปเดตเทรนด์ล่าสุด

เสริมหน้าผากแบบไหนให้ปัง พร้อมอัปเดตเทรนด์ล่าสุด

เสริมหน้าผาก เป็นการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากจะช่วยให้ใบหน้าดูโดดเด่นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเลือกเทคนิคเสริมหน้าผากก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน เสริมหน้าผากด้วยฟิลเลอร์ และ เสริมหน้าผากด้วยไขมัน ซึ่งแต่ละเทคนิคก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ทรงหน้าผากที่แตกต่างกันออกไป ในบทความนี้จะมาอัปเดตเทรนด์ล่าสุดของการเสริมหน้าผาก การเลือกเทคนิคเสริมหน้าผากให้เหมาะกับใบหน้า รวมถึงเสริมหน้าผากที่ไหนดี บทความนี้มีคำตอบ

ทำไมการเสริมหน้าผากถึงได้รับความนิยม?

ทำไมการเสริมหน้าผากถึงได้รับความนิยม?

การเสริมหน้าผาก เป็นการศัลยกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาหน้าผากแคบ หน้าผากแบนได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยให้หน้าผากได้สัดส่วนสวยงาม ดูอวบอิ่ม โค้งมน ช่วยเสริมความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันได้ จึงทำให้การเสริมหน้าผากได้รับความนิยมอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การเลือกเทคนิคเสริมหน้าผากก็มีส่วนสำคัญ เนื่องจากแต่ละเทคนิคมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป ก่อนทำหัตถการจึงควรมีการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ทรงหน้าผากที่เหมาะสมกับแต่ละคน

รู้จักกับเทคนิคการเสริมหน้าผากยอดนิยม

รู้จักกับเทคนิคการเสริมหน้าผากยอดนิยม

เทคนิคการเสริมหน้าผากที่ได้รับความนิยมมีอยู่ 3 เทคนิค ได้แก่

การเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน

การเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน เป็นเทคนิคที่แพทย์จะนำแผ่นซิลิโคนที่มีรูปทรงโค้งงอใส่เข้าไปในพื้นที่หน้าผากเดิม เพื่อเสริมมิติของหน้าผากให้สมส่วน และสวยงามมากขึ้น ซึ่งซิลิโคนที่ใช้ก็จะมี 2 รูปแบบ ได้แก่ ซิลิโคนสำเร็จรูปและซิลิโคนเฉพาะบุคคล ซึ่งมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป สำหรับข้อดีของซิลิโคนสำเร็จรูปคือสามารถใช้งานได้ทันที แต่อาจไม่พอดีกับหน้าผากและทำให้เห็นขอบซิลิโคนได้ ในขณะที่ซิลิโคนเฉพาะบุคคล อาจต้องใช้เวลาออกแบบให้เหมาะกับแต่ละคน แต่จะพอดีกับหน้าผากและแก้ไขปัญหาของแต่ละคนได้อย่างเหมาะสม รับได้กับใบหน้าทุกรูปแบบ เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบถาวร

ปรึกษาหมอฟรี

การเสริมหน้าผากด้วยฟิลเลอร์

การเสริมหน้าผากด้วยฟิลเลอร์ เป็นเทคนิคที่แพทย์จะฉีดสารไฮยาลูรอนิค แอซิด เพื่อปรับแต่งรูปทรงหน้าผากให้ตรงกับความต้องการของแต่ละคน ซึ่งข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คือไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ทั้งยังเห็นผลได้ทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้น หากผลลัพธ์ไม่ตรงตามความต้องการสามารถฉีดเพิ่มได้ หรืออยากเอาออกก็ฉีดสลายฟิลเลอร์ได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ได้เพียง 1 ปี อีกทั้งยังต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เนื่องจากบริเวณหน้าผากมีเส้นเลือดรวมอยู่มาก

การเสริมหน้าผากด้วยไขมัน

การเสริมหน้าผากด้วยไขมัน เป็นเทคนิคที่แพทย์จะดูดไขมันจากส่วนอื่นในร่างกายมาเสริมบริเวณหน้าผาก ทำให้หน้าผากนูนสวยขึ้น ซึ่งข้อดีของการเสริมหน้าผากด้วยไขมัน คือลดความเสี่ยงที่จะเกิด เนื่องจากเป็นการใช้ไขมันในร่างกายของตัวเอง อีกทั้งไขมันบางส่วนจะอยู่แบบถาวร สลายเพียงบางตัวเท่านั้น ฟื้นตัวได้เร็ว และมีรอยแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การฉีดหน้าผากไม่สามารถทำได้ทุกคน เนื่องจากจะไม่เหมาะกับคนที่มีไขมันในร่างกายน้อย และกระบวนการทำต้องใช้ระยะเวลา นอกจากนี้เพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์อาจจำเป็นต้องทำ 2-3 ครั้ง

เลือกเทคนิคเสริมหน้าผากแบบไหนให้เหมาะกับรูปหน้า

เลือกเทคนิคเสริมหน้าผากแบบไหนให้เหมาะกับรูปหน้า

สำหรับการเลือกเทคนิคให้เหมาะกับรูปหน้าของแต่ละคน แนะนำให้ประเมินจากปัญหาของแต่ละคน ดังนี้

  • หน้าผากแบน หน้าผากบุบ ไม่เรียบ เหมาะกับการเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน
  • หน้าผากแบน หน้าผากยุบ และมีปัญหาอื่น ๆ เช่น ร่องลึก รอยบุ๋ม เหมาะกับการเสริมหน้าผากด้วยฟิลเลอร์
  • หน้าผากแบน หน้าผากแคบ ขมับตอบ มีริ้วรอยร่องลึก รอยย่นที่หน้าผาก เหมาะกับการเสริมหน้าผากด้วยไขมัน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงการประเมินเบื้องต้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แพทย์พิจารณาเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับใบหน้าและปัญหาของแต่ละคนมากที่สุด รวมถึงแนะนำให้ศึกษาข้อมูลจากรีวิวเสริมหน้าผาก ประกอบกับราคาเสริมหน้าผาก เพื่อให้การเสริมหน้าผากได้รับผลลัพธ์ตรงตามความต้องการมากที่สุด

การเตรียมตัวก่อนและหลังการเสริมหน้าผาก

การเตรียมตัวก่อนและหลังการเสริมหน้าผาก

การเตรียมตัวก่อนและหลังเสริมหน้าผาก เป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้การศัลยกรรมเสริมหน้าผากเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ แนะนำให้มีการเตรียมตัวดังนี้

ก่อนเสริมหน้าผาก

  • แจ้งประวัติแพ้ยา และโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบ
  • ในกรณีที่ใช้ยาสลบ งดรับประทานอาหารและน้ำดื่ม 6-8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเสริมหน้าผาก
  • ในกรณีที่มีอาการเจ็บป่วย แนะนำให้แจ้งแพทย์เพื่อเลื่อนวันผ่าตัดออกไปก่อน
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่ถอดออกได้ง่าย แนะนำให้เป็นเสื้อแบบติดกระดุมหน้า
  • แนะนำให้พาญาติหรือคนสนิทมาด้วย เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก
  • ควรสระผมและทำความสะอาดร่างกายให้เรียบร้อย เนื่องจากหลังการเสริมหน้าผากอาจไม่สามารถสระผมได้ระยะหนึ่ง
  • งดแต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอางค์ในวันผ่าตัด

หลังเสริมหน้าผาก

  • ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  • แนะนำให้นอนหมอนสูงในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อลดอาการบวม
  • หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือตะแคง อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
  • สวมสายรัดหน้าผากตลอดเวลาอย่างน้อย 3 วัน
  • ในกรณีที่มีอาการบวมช้ำ แนะนำให้ประคบเย็นช่วง 2 วันแรก จากนั้นเปลี่ยนเป็นประคบอุ่น
  • งดสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์ 2-4 สัปดาห์
  • งดออกกำลังกาย อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
  • งดแต่งหน้าและทาครีมจนกว่าแพทย์จะอนุญาต
  • หลีกเลี่ยงการออกแดด หรือเผชิญแสงแดดแรง ๆ เนื่องจากอาจส่งผลให้เกิดการระคายเคืองได้
  • ในกรณีที่มีอาการผิดปกติใด ๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที เพื่อเข้ารับการแก้ไข

อัปเดตเทรนด์เสริมหน้าผากล่าสุด

สำหรับเทรนด์เสริมหน้าผากที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน จะมี 3 เทคนิค ได้แก่ เสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน เสริมหน้าผากด้วยฟิลเลอร์ และเสริมหน้าผากด้วยไขมัน ซึ่งแต่ละเทคนิคก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือทำให้หน้าผากดูมีมิติ สวยงาม เหมาะกับใบหน้าแต่ละคน และทำให้ใบหน้าดูโดดเด่นมากขึ้น

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

A: การเสริมหน้าผาก เป็นเทคนิคที่ช่วยให้รูปทรงของหน้าผากสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งยังเสริมความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ควรเลือกโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ จะทำให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ และตรงตามความต้องการมากที่สุด

A: การเสริมหน้าผาก “จะรู้สึกเจ็บขณะทำหัตถการ” เนื่องจากต้องมีกระบวนการเปิดแผล อย่างไรก็ตาม แพทย์จะใช้ยาชาหรือยาสลบ ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้ 

A: สำหรับข้อควรระวังหลังจากเสริมหน้าผาก คืออาจมีอาการปวด บวม ตึงเล็กน้อย แต่อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ นอกเหนือจากนี้จะมีข้อปฏิบัติอื่น ๆ ซึ่งแพทย์จะแนะนำก่อนทำการเสริมหน้าผาก คนไข้จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ

A: ผลลัพธ์ของการเสริมหน้าผาก “ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้” ในกรณีที่เสริมหน้าผากด้วยซิลิโคนผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่แบบถาวร ในกรณีที่เสริมหน้าผากด้วยฟิลเลอร์ ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี และในกรณีที่เสริมหน้าผากด้วยไขมัน ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้แบบถาวรหากดูแลตัวเองดี ๆ แต่ก็มีโอกาสที่ไขมันอาจเสื่อมสลายจากปัจจัยต่าง ๆ ได้ เช่น น้ำหนักลด อายุเพิ่มขึ้น หรือดูแลตัวเองไม่ถูกวิธี

สรุป

เสริมหน้าผาก เป็นการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยม ทำให้หน้าผากดูมีมิติ เพิ่มความมั่นใจให้กับใครหลายคน อย่างไรก็ตาม การเลือกเทคนิคเสริมหน้าผากก็สำคัญไม่แพ้กัน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แพทย์พิจารณาเลือกเทคนิคที่เหมาะกับแต่ละคน สำหรับใครที่สนใจเสริมหน้าผาก โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชพร้อมให้บริการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ พร้อมด้วยเทคนิคและเครื่องมือที่ครบครัน ได้มาตรฐานโรงพยาบาล มั่นใจได้ว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ตรงตามความต้องการ ในเบื้องต้นสามารถเข้าปรึกษาแพทย์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

บทความโดย

เราคือโรงพยาบาลศัลยกรรมด้านความงามของประเทศไทยและเอเชีย มีความต้องการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนเกี่ยวกับบริการศัลยกรรมด้านความงาม โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ดูแลคุณตั้งแต่การให้คำปรึกษาไปจนถึงหลังการผ่าตัด โดยทีมแพทย์มากประสบการณ์ที่มีประสบการณ์ มอบบริการครบวงจรด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดำเนินการภายใต้มาตรฐานการรักษาพยาบาล ของโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการให้บริการสถานพยาบาลระดับสากล AACI

ข้อมูลการติดต่อโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช
ตั้งอยู่ที่ 99/19 ถนนสุไขทัย แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300

แชร์เลย:
register