G6PD หรืออาการเอนไซน์บกพร่องและวิตามินดริปเฉพาะสำหรับผู้มีอาการ

G6PD หรืออาการเอนไซน์บกพร่องและวิตามินดริปเฉพาะสำหรับผู้มีอาการ

เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า G6PD คืออะไร? เนื่องจาก G6PD ถือเป็นโรคที่ค่อนข้างไกลตัวสำหรับใครหลายคน จนบางคนอาจจะไม่เคยรู้จักโรคนี้มาก่อน ในบทความนี้จึงจะมาแนะนำให้รู้จัก G6PD มากขึ้น พร้อมทั้งแนวทางการดูแลตัวเอง จะมีอะไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ

G6PD คือ

G6PD หรือโรคแพ้ถั่วปากอ้า เป็นโรคทางพันธุกรรมที่มีการบกพร่องของเอนไซม์ G6PD (Glucose-6-Phosphate Dehydrogenase) ซึ่งมีหน้าที่ป้องกันการทำลายของเม็ดเลือดแดงจากยาหรือสารเคมีบางชนิด ทั้งยังทำให้เม็ดเลือดแดงรวมถึงเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายแข็งแรง เมื่อเอนไซม์ดังกล่าวบกพร่อง จะส่งผลให้เม็ดเลือดแดงแตกได้ง่ายเมื่อได้รับสารกระตุ้น เช่น อาหารบางชนิด, ยาบางชนิด, การติดเชื้อ และหากร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงใหม่ไม่ทัน ก็จะนำไปสู่ภาวะโลหิตจางได้

โดยทั่วไป G6PD จะเกิดจากพันธุกรรม มักจะส่งผ่านแม่สู่ลูกชาย อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับการตรวจตั้งแต่เกิด ก็จะไม่สามารถรู้ได้ว่ามีโรคนี้ติดตัว ดังนั้น การตรวจสุขภาพและการวางแผนจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ลูกที่เกิดมาสุขภาพแข็งแรง และหากมีโรค G6PD จะสามารถหลีกเลี่ยงสารกระตุ้นได้

สำหรับอาการของ G6PD ในเด็กและผู้ใหญ่ จะมีความแตกต่างกัน ดังนี้

ปรึกษาหมอฟรี
  • เด็ก

ทารกแรกเกิดอายุ 1-4 วัน ที่มีโรค G6PD จะตัวเหลืองและตาเหลืองนานกว่าเด็กทั่วไป รวมถึงมีค่าสารเหลืองมากกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม เด็กที่มีอาการเหล่านี้ แพทย์จะตรวจเช็คโรค G6PD ทำให้ทราบตั้งแต่เด็กว่าเป็นโรคนี้

  • ผู้ใหญ่

ในกรณีที่ไม่รู้ตัวว่าเป็นโรค G6PD และได้รับสารกระตุ้น จะส่งผลให้เม็ดเลือดแดงแตกแบบเฉียบพลัน จนเกิดอาการซีด หรือภาวะโลหิตจาง ทำให้มีอาการเหนื่อยและอ่อนเพลีย โดยส่วนใหญ่จะมีอาการ 1-2 วันหลังจากได้รับสารกระตุ้น ในกรณีที่อาการรุนแรง เนื่องจากเม็ดเลือดแดงแตกจนเกิดการตกตะกอนที่ไต จะส่งผลให้ปัสสาวะเปลี่ยนสีจนคล้ายน้ำโค้ก รวมถึงปริมาณปัสสาวะที่น้อยลง เสี่ยงต่อไตวายเฉียบพลันได้ แนะนำให้เข้าพบแพทย์ทันที

คนเป็น G6PD ห้ามกินอะไรบ้าง

คนเป็น G6PD ห้ามกินอะไรบ้าง

สำหรับคนที่มีโรค G6PD ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหาร เช่น ถั่วปากอ้า, เชอร์รี, บลูเบอร์รี, ไวน์แดง, โยเกิร์ตที่มีส่วนผสมของถั่ว เนื่องจากอาหารเหล่านี้ โดยเฉพาะถั่วปากอ้ามีสารอนุมูลอิสระหลายชนิด ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกได้ง่ายในกรณีที่เข้าสู่ร่างกายในปริมาณมาก ซึ่งเป็นที่มาของชื่อโรคแพ้ถั่วปากอ้า นอกจากนี้ สารถนอมอาหาร เช่น ซัลไฟต์ ที่นิยมใส่ในอาหารหรือน้ำผลไม้กระป๋อง รวมถึงไส้กรอก ก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นเดียวกัน

ในส่วนของยาที่ G6PD ควรเลี่ยง ได้แก่ ยากลุ่ม NSAIDs เช่น แอสไพริน หรือยาปฏิชีวนะ เช่น ยากลุ่มซัลฟาหรือยาไนโตรฟูแรนโทอิน รวมถึงยาต้านมาลาเรีย เช่น ควินิน หรือควินิดีน เป็นต้น นอกจากนี้ ยาอื่น ๆ เช่น ยาลดความดันโลหิต, ยารักษาพาร์กินสัน, ยาฮอร์โมน, ยาเคมีบำบัด, ยารักษาโรคเก๊าท์ ก็มีความเสี่ยงทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงแตกได้ ผู้ที่มีโรค G6PD ทางโรงพยาบาลจึงจะต้องมีสมุดประจำตัวผู้ป่วยให้ เพื่อให้ง่ายต่อการจ่ายยาในการรักษาโรคอื่น ๆ

นอกจากอาหารและยาเหล่านี้ สารเคมี เช่น สารหนู, การบูร, ลูกเหม็น, เมนทอล หากสูดดมเข้าไปก็อาจส่งผลให้เซลล์เม็ดเลือดแดงแตกได้เช่นเดียวกัน

การดูแลตัวเองสำหรับผู้มีอาการ G6PD

ผู้ที่มีอาการของโรค G6PD แนะนำให้มีการดูแลตัวเอง ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงสารกระตุ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหาร, ยา, สารเคมี
  • เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ และทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
  • ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไป และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรออกกำลังกายหนักเกินไป เพราะอาจกระตุ้นให้โรคกำเริบได้
  • ในกรณีที่ไปโรงพยาบาล ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งว่ามีโรคนี้ เพื่อให้แพทย์จ่ายยาโดยไม่กระทบต่อโรค
  • เมื่อมีอาการป่วย ไม่ควรซื้อยาทานเอง แนะนำให้มีการปรึกษาแพทย์ก่อน
  • ในกรณีที่ต้องการมีบุตร แนะนำให้มีการปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อวางแผนครอบครัว
  • เมื่อเกิดอาการเม็ดเลือดแดงแตก หรือมีอาการซีด, เหนื่อย, เพลีย, ปัสสาวะเปลี่ยนสี แนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที
G6PD Formula IV Drip เฉพาะสำหรับผู้มีภาวะบกพร่องทางเอนไซน์

G6PD Formula IV Drip เฉพาะสำหรับผู้มีภาวะบกพร่องทางเอนไซน์

เนื่องจากโรค G6PD ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ สามารถทำได้เพียงหลีกเลี่ยงสารกระตุ้นเพื่อไม่ให้เส้นเลือดแดงแตก ดังนั้น การดูแลตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในปัจจุบันมีนวัตกรรมทางการแพทย์ที่เรียกว่า “G6PD Formula IV Drip” ซึ่งเป็นการดริปวิตามินที่เหมาะกับคนที่เป็นโรค G6PD โดยจะช่วยฟื้นฟูหลอดเลือดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเติมวิตามินในส่วนที่ขาด และเสริมสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่องทุก ๆ 1 สัปดาห์ ติดต่อกัน 5 ครั้ง และทุก ๆ 2-4 สัปดาห์ ติดต่อกัน 3 ครั้ง หลังจากนั้นทุก ๆ 1-2 เดือนตามความต้องการ จะทำให้ร่างกายแข็งแรง และได้รับผลลัพธ์ที่ดี

G6PD Formula IV Drip สูตรเฉพาะที่มาสเตอร์พีช

สำหรับใครที่เป็นโรค G6PD และต้องการดริปวิตามินเพื่อบำรุงร่างกาย โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช มี G6PD Formula IV Drip สูตรเฉพาะ ที่จะช่วยบำรุงร่างกายและฟื้นฟูหลอดเลือด เติมเต็มวิตามินให้ร่างกายแข็งแรง โรงพยาบาลของเรามีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ พร้อมด้วยเทคนิคและเครื่องมือที่ครบครัน ได้มาตรฐานโรงพยาบาล คอยดูแลและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด มั่นใจได้ว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีตรงตามความต้องการ สำหรับราคา G6PD Formula IV Drip จะอยู่ที่ 3,500 บาทต่อครั้ง ในเบื้องต้นสามารถเข้าปรึกษาทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

แชร์เลย:
register