ดึงหน้า อยู่ได้กี่ปี? ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการดึงหน้า
การดึงหน้า ถือเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย อีกทั้งยังช่วยย้อนวัยทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดึงหน้า เช่น ดึงหน้า อยู่ได้กี่ปี? อยู่ได้นานแค่ไหน? ใช้เวลาพักฟื้นกี่วัน? ในวันนี้มาสเตอร์พีชได้รวบรวมข้อมูลมาให้เรียบร้อยแล้ว มาไขข้อสงสัยพร้อมกันในบทความได้เลย

หลังดึงหน้าสามารถอยู่ได้กี่ปี ?
หลังดึงหน้า อยู่ได้กี่ปี? คำตอบคือ สามารถอยู่ได้ 5-10 ปี อย่างไรก็ตาม ระยะเวลายังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ดังนี้
- สภาพผิว
สภาพผิว ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยกำหนดว่าการดึงหน้าสามารถอยู่ได้นานแค่ไหน เนื่องจากสภาพผิวที่ดีและมีความยืดหยุ่นสูง จะช่วยให้ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานขึ้น อีกทั้งการดูแลผิวให้ชุ่มชื้น หลีกเลี่ยงแสงแดด ก็จะช่วยรักษาสภาพผิวให้ดีขึ้น
- การดูแลหลังการผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดดึงหน้า ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ และกำหนดระยะเวลาของการดึงหน้า โดยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงมีการรักษาสุขภาพ จะช่วยให้การดึงหน้าสามารถอยู่ได้นานขึ้น
- อายุ
อายุของผู้เข้ารับการผ่าตัดดึงหน้า มีผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์ เนื่องจากผู้ที่อายุน้อย ผิวจะมีความยืดหยุ่นมากกว่า ส่งผลให้ผลลัพธ์จากการดึงหน้าสามารถอยู่ได้นานกว่า
- เทคนิคของแพทย์ และเครื่องมือที่ใช้
เทคนิคของแพทย์ และเครื่องมือที่ใช้ ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้มีคุณภาพและระยะเวลายาวนานขึ้น แนะนำให้เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ รวมถึงโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีเครื่องมือที่ทันสมัย จะช่วยให้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ

ดึงหน้า ต้องพักฟื้นนานไหม?
หลังจากผ่าตัดดึงหน้า ใบหน้าจะบวมช้ำประมาณ 1-2 สัปดาห์ และอาการบวมจะหายไปภายใน 2-3 สัปดาห์ สามารถแปรงฟัน ล้างหน้า สระผมได้ตามปกติ โดยหลังจากผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ แพทย์จะนัดตัดไหม และหลังจากผ่านไป 1-3 เดือน ใบหน้าจะเข้าสู่สภาพปกติ อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาพักฟื้น ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละคน ควรมีการดูแลตัวเองและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ จะทำให้ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อยลง และกลับไปใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้น
ดึงหน้าตอนอายุเท่าไรดี
การผ่าตัดดึงหน้า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ แต่ขึ้นอยู่กับความหย่อนคล้อย ริ้วรอยต่าง ๆ รวมถึงสภาพผิวของแต่ละคน ซึ่งช่วงอายุที่จะเกิดปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อยมากที่สุด คือช่วงวัยตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป จนถึงอายุ 70 ปี อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่อายุน้อยกว่านั้น แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตจำเป็นต้องโดดแดด โดนลมเยอะ ๆ จนทำให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย และไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการอื่น ก็อาจผ่าตัดดึงหน้าได้เช่นเดียวกัน แนะนำให้มีการปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินปัญหาผิว และแนะนำแนวทางการรักษา ทางโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช พร้อมให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถติดต่อสอบถามได้ตามช่องทางต่อไปนี้ https://www.masterpiecehospital.com/appointment

เทคนิคดึงหน้า (Face Lift) มีแบบไหนบ้าง?
เทคนิคการดึงหน้าที่นิยมใช้ในปัจจุบัน มีดังนี้
- การผ่าตัดดึงหน้า SMAS
การผ่าตัดดึงหน้า SMAS หรือเรียกอีกอย่างว่าการผ่าตัดดึงหน้าบริเวณชั้นเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยแพทย์จะผ่าตัดเลาะเนื้อผิวไปยังชั้นเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อส่วนบน และปรับดึงเนื้อผิวให้ตึง รวมถึงตัดแต่งเนื้อผิวส่วนที่หย่อนคล้อยออกไป
- การผ่าตัดดึงหน้า Endotine
เอนโดไทน์ (Endotine) คือ วัสดุที่มีรูปร่างคล้ายหมุดเล็ก ๆ มีก้านคล้ายหนามยื่นออกมารอบหมุด ใช้สำหรับดึงผิวหน้าโดยเฉพาะ โดยแพทย์จะผ่าตัดเปิดเนื้อผิว และใส่เอนโดไทน์ลงไปยังตำแหน่งต่าง ๆ เพื่อยึดและดันผิวที่หย่อนคล้อย หรือยุบตัวลงไปให้ตึงอีกครั้ง วัสดุของเอนโดไทน์ เป็นวัสดุที่ไม่อันตราย ทั้งยังสามารถละลายเองได้ตามธรรมชาติ จึงมั่นใจได้ว่าจะลดความเสี่ยง และได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ
- การผ่าตัดดึงหน้าส่องกล้อง (Endoscopic Lift)
การผ่าตัดดึงหน้าส่องกล้อง เป็นเทคนิคที่ใช้ระยะเวลาพักฟื้นไม่นาน และแผลผ่าตัดจะมีขนาดเล็ก เนื่องจากเป็นการผ่าตัดโดยใช้กล้องขนาดเล็กในการแยกชั้นผิวออก แล้วดึงผิวส่วนที่หย่อนคล้อยให้กลับมาดูตึงและอ่อนเยาว์อีกครั้ง ซึ่งการผ่าตัดดึงหน้าแบบส่องกล้อง นิยมใช้แทนเทคนิคการผ่าตัดแบบดั้งเดิมที่จะกรีดเปิดผิวขนาดใหญ่ ทั้งยังนิยมใช้ร่วมกับเอนโดไทน์ เพื่อให้มีความแม่นยำมากขึ้นอีกด้วย
- การผ่าตัดดึงหน้าไม่ใช้ยาสลบ
การผ่าตัดดึงหน้าไม่ใช้ยาสลบ ถือเป็นการผ่าตัดที่คล้ายการผ่าตัดแบบ SMAS แต่มีข้อแตกต่างคือไม่ใช้ยาสลบ โดยมีจุดประสงค์คือลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแพ้ยาสลบ ง่วงซึม หรือมึนงงหลังจากตื่นขึ้นมา โดยแพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะจุดเพื่อป้องกันอาการเจ็บ อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดดึงหน้าโดยไม่ใช้ยาสลบจะต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ที่มีประสบการณ์ ร่วมกับการพูดคุยกับคนไข้ เพื่อให้มีความเข้าใจที่ตรงกันก่อนผ่าตัด

ข้อดี-ข้อจำกัดของการดึงหน้า
ข้อดีของการผ่าตัดดึงหน้า มีดังนี้
- ช่วยแก้ปัญหาใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นความหย่อนคล้อย รวมถึงริ้วรอยต่าง ๆ
- ได้รับผลลัพธ์ในระยะยาว และดูเป็นธรรมชาติ
- ช่วยแก้ไขปัญหาผิวอย่างตรงจุด
- เพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิต
- ใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน รวมถึงใช้เวลาในการพักฟื้นน้อย แผลหายเร็ว
อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดดึงหน้า มีข้อจำกัด เนื่องจากผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดดึงหน้าส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ซึ่งอาจมีโรคประจำตัว หรือมีการทานยาประจำอยู่ ควรแจ้งข้อมูลเหล่านี้ให้แพทย์ทราบอย่างครบถ้วน เพื่อให้แพทย์พิจารณา ว่าสามารถผ่าตัดดึงหน้าได้หรือไม่ และควรใช้เทคนิคผ่าตัดแบบไหน จะช่วยลดความเสี่ยงในการผ่าตัดดึงหน้า และช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามความต้องการ
การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมดึงหน้า
การเตรียมตัวของก่อนการศัลยกรรมดึงหน้า ถือเป็นปัจจัยที่จะทำให้การผ่าตัดดึงหน้าผ่านไปอย่างราบรื่น โดยควรมีการเตรียมตัว ดังนี้
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ล่วงหน้า อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
- งดยา อาหารเสริม รวมถึงสมุนไพร ก่อนเข้าผ่าตัดอย่างน้อย 10 วัน
- งดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัด 6-8 ชั่วโมง
- แนะนำให้ลางานล่วงหน้า 2 สัปดาห์ สำหรับพักฟื้น
- สำหรับคุณผู้หญิง แนะนำให้เลี่ยงการผ่าตัดในช่วงที่ใกล้หรือขณะมีประจำเดือน
- ควรมีเพื่อนหรือญาติมาคอยดูแล เพราะการผ่าตัดอาจจำเป็นต้องใช้ยาสลบ และจะเกิดอาการมึนงงได้
- อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายให้เรียบร้อยก่อนผ่าตัด
- เตรียมเสื้อผ้าหลวม ๆ และสวมใส่ง่ายในวันผ่าตัด
- ควรแจ้งข้อมูลให้แพทย์ทราบอย่างครบถ้วน และหากมีอาการผิดปกติใด ๆ ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบทันที

เคล็ดลับการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดดึงหน้า
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดดึงหน้า ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามความต้องการ และยืดระยะเวลาของผลลัพธ์จากการดึงหน้าให้นานขึ้น โดยแนะนำว่าควรมีการดูแลตัวเอง ดังนี้
- นอนหมอนสูงเพื่อลดอาการบวมหลังผ่าตัด 3-7 วัน
- งดการทำกิจกรรมที่อาจทำให้กระทบกระเทือน 1 สัปดาห์
- ประคบเย็นบริเวณแผลเพื่อลดอาการปวดบวม 3 วัน
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ในระยะยาว เพื่อลดโอกาสในการติดเชื้อ
- ควรทำให้แผลแห้งตลอดเวลา ไม่ควรให้แผลโดนน้ำ เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์
- งดออกกำลังกายอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ทำความสะอาดแผล โดยใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดบริเวณแผลเบา ๆ
- ใช้ผ้ารัดใบหน้าให้ตึงตามคำแนะนำของแพทย์
- ใช้ครีมขี้ผึ้งทาแผลเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
- หลังจาก 1 สัปดาห์ สามารถสระผมได้ แต่ไม่ควรเกา
- งดย้อมสีผม หรือทำเคมีกับผม อย่างน้อย 1 เดือน เพราะอาจส่งผลกระทบต่อแผลได้
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ
- ทานยาตามที่แพทย์สั่ง รวมถึงปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เข้าพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ และหากมีอาการผิดปกติใด ๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
สรุป ดึงหน้า อยู่ได้กี่ปี ?
สำหรับข้อสงสัยเกี่ยวกับการดึงหน้า ว่าอยู่ได้กี่ปี? อยู่ได้นานแค่ไหน? และใช้เวลาพักฟื้นเท่าไร? มาสเตอร์พีชได้ไขข้อสงสัยให้เรียบร้อยแล้ว และถ้าใครที่สนใจทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช พร้อมให้บริการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ พร้อมด้วยเทคนิคและเครื่องมือที่ทันสมัย ได้มาตรฐานโรงพยาบาล มั่นใจได้ว่าจะไม่มีความเสี่ยง และได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ ถ้าสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ตามช่องทางต่อไปนี้ https://www.masterpiecehospital.com/appointment


















