Hyperbaric oxygen therapy คืออะไร
Hyperbaric oxygen therapy (HBOT) คือ การบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง ที่มีความบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ผ่านทางระบบทางเดินหายใจเข้าสู่ร่างกาย เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก สามารถรักษาโรคต่าง ๆ และช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Hyperbaric oxygen therapy มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
ประโยชน์ที่ได้จากการบำบัดด้วย HBOT (Hyperbaric oxygen therapy) มีดังนี้
- ช่วยรักษาการติดเชื้อของกล้ามเนื้อชนิดรุนแรงตามจุดต่าง ๆ
- ช่วยลดอาการบวมช้ำ หลังทำหัตถการ หรือบริเวณแผลผ่าตัด
- ช่วยรักษากระดูก และเนื้อเยื่อต่าง ๆ
- ช่วยรักษาแผลเรื้อรังจากการกดทับ หรือแผลเบาหวาน
- ช่วยรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
- ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ด้วยการเพิ่มปริมาณออกซิเจนบริสุทธิ์
- ช่วยลดอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ปวดหัว
- ช่วยกระตุ้นการสร้างอนุมูลอิสระ

Hyperbaric oxygen therapy ทำงานอย่างไร
การทำงานของ hyperbaric oxgen therapy (HBOT) คนไข้จะต้องผ่านการตรวจประเมินสุขภาพจากแพทย์ที่มีประสบการณ์แบบละเอียด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน หรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น โดยขั้นตอนการทำงานคร่าว ๆ ของ HBOT มีดังนี้
- เปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่โรงพยาบาลจัดเตรียมไว้ให้
- นอนลงบนเตียงภายในเครื่องปรับแรงดันบรรยากาศสูงด้วยท่าตรง หรือท่าที่รู้สึกผ่อนคลาย
- เปิดใช้งานเครื่อง HBOT โดยเพิ่มปริมาณความดันออกซิเจนบริสุทธิ์ 100 % ให้มากกว่าปกติ ช่วงแรกอาจรู้สึกหูอื้อ แต่แพทย์จะคอยเฝ้าสังเกตอาการอยู่ตลอดเวลา พร้อมสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์ที่ติดมากับตัวเครื่อง
- คนไข้สามารถปรับท่านอนได้ตามอัธยาศัย จะหลับชมโทรทัศน์ หรือหลับพักผ่อนตามสะดวก
- เครื่องจะทำงานประมาณ 60 – 90 นาที/ครั้ง (ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการเข้ารับการรักษา)
- เมื่อครบกำหนดเวลา จะค่อย ๆ ปรับลดความกดบรรยากาศภายในเครื่องให้คืนสู่สภาพปกติ ก่อนนำคนไข้ออกจากเครื่องอย่างปลอดภัย
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นหลังทำ hyperbaric oxygen therapy
ภาวะแทรกซ้อนระหว่างใช้เครื่อง และหลังทำ HBOT จะมีความแตกต่างกันออกไป โดยภาวะที่พบได้บ่อยได้แก่ อาการหูอื้อ, แน่นจมูก, คลื่นไส้, เวียนศีรษะ หรือรู้สึกหายใจได้ลำบาก เป็นผลมาจากความดันกดบรรยากาศที่สูงขึ้น แพทย์จะคอยเฝ้าสังเกตอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีความเสี่ยงมากเกินไปจะพาออกจากเครื่องทันที
ใครเหมาะกับการทำ HBOT บ้าง
HBOT เหมาะกับใครบ้าง ? เป็นคำถามที่หลายคนให้ความสนใจอย่างมาก โดยจริง ๆ แล้วไม่ว่าใครก็สามารถเข้าใช้บริการได้ แต่เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดอาจเหมาะกับกลุ่มคนเหล่านี้
- คนไข้ที่มีภาวะโลหิตจาง
- คนไข้ที่มีปัญหาแผลกดทับเรื้อรัง
- คนไข้ที่มีภาวะติดเชื้อรุนแรง ที่ผิวหนัง หรือเนื้อเยื่อตาย
- คนไข้ที่เคยผ่านการปลูกถ่ายผิวหนัง
- คนไข้ที่แผลหายช้าจากภาวะ โรคเบาหวาน
- คนไข้ที่มีภาวรหูตึง หรือหูดับ
- คนไข้ที่ได้รับบาดเจ็บจากกลายฉายรังสี
- คนไข้ที่มีอาการหอบ หรือหายใจได้ลำบาก จากปริมาณออกซิเจนน้อย
- คนไข้ที่มีปัญหาปวดหัวง่าย หรือเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
- คนไข้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
- คนไข้ที่ผ่าตัดศัลยกรรม หรือทำหัตถการแล้วมีแผลบวมช้ำ
ที่กล่าวมาเป็นเพียงผลลัพธ์เบื้องต้นที่ช่วยในการรักษาโดยเครื่อง hyperbaric oxgen therapy (HBOT)
















