Hyperbaric oxygen therapy คืออะไร

Hyperbaric oxygen therapy (HBOT) คือ การบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง ที่มีความบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ผ่านทางระบบทางเดินหายใจเข้าสู่ร่างกาย เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก สามารถรักษาโรคต่าง ๆ และช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Hyperbaric oxygen therapy มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

Hyperbaric oxygen therapy มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

ประโยชน์ที่ได้จากการบำบัดด้วย HBOT (Hyperbaric oxygen therapy)  มีดังนี้ 

  1. ช่วยรักษาการติดเชื้อของกล้ามเนื้อชนิดรุนแรงตามจุดต่าง ๆ 
  2. ช่วยลดอาการบวมช้ำ หลังทำหัตถการ หรือบริเวณแผลผ่าตัด
  3. ช่วยรักษากระดูก และเนื้อเยื่อต่าง ๆ 
  4. ช่วยรักษาแผลเรื้อรังจากการกดทับ หรือแผลเบาหวาน
  5. ช่วยรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก 
  6. ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ด้วยการเพิ่มปริมาณออกซิเจนบริสุทธิ์ 
  7. ช่วยลดอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ปวดหัว 
  8. ช่วยกระตุ้นการสร้างอนุมูลอิสระ
hyperbaric oxygen therapy ทำงานอย่างไร

Hyperbaric oxygen therapy ทำงานอย่างไร

การทำงานของ hyperbaric oxgen therapy (HBOT) คนไข้จะต้องผ่านการตรวจประเมินสุขภาพจากแพทย์ที่มีประสบการณ์แบบละเอียด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน หรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น โดยขั้นตอนการทำงานคร่าว ๆ ของ HBOT มีดังนี้ 

  1. เปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่โรงพยาบาลจัดเตรียมไว้ให้ 
  2. นอนลงบนเตียงภายในเครื่องปรับแรงดันบรรยากาศสูงด้วยท่าตรง หรือท่าที่รู้สึกผ่อนคลาย 
  3. เปิดใช้งานเครื่อง HBOT โดยเพิ่มปริมาณความดันออกซิเจนบริสุทธิ์ 100 % ให้มากกว่าปกติ ช่วงแรกอาจรู้สึกหูอื้อ แต่แพทย์จะคอยเฝ้าสังเกตอาการอยู่ตลอดเวลา พร้อมสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์ที่ติดมากับตัวเครื่อง 
  4. คนไข้สามารถปรับท่านอนได้ตามอัธยาศัย จะหลับชมโทรทัศน์ หรือหลับพักผ่อนตามสะดวก 
  5. เครื่องจะทำงานประมาณ 60 – 90 นาที/ครั้ง (ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการเข้ารับการรักษา)
  6. เมื่อครบกำหนดเวลา จะค่อย ๆ ปรับลดความกดบรรยากาศภายในเครื่องให้คืนสู่สภาพปกติ ก่อนนำคนไข้ออกจากเครื่องอย่างปลอดภัย

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นหลังทำ hyperbaric oxygen therapy

ภาวะแทรกซ้อนระหว่างใช้เครื่อง และหลังทำ HBOT จะมีความแตกต่างกันออกไป โดยภาวะที่พบได้บ่อยได้แก่ อาการหูอื้อ, แน่นจมูก, คลื่นไส้, เวียนศีรษะ หรือรู้สึกหายใจได้ลำบาก เป็นผลมาจากความดันกดบรรยากาศที่สูงขึ้น แพทย์จะคอยเฝ้าสังเกตอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีความเสี่ยงมากเกินไปจะพาออกจากเครื่องทันที

ใครเหมาะกับการทำ HBOT บ้าง

HBOT เหมาะกับใครบ้าง ? เป็นคำถามที่หลายคนให้ความสนใจอย่างมาก โดยจริง ๆ แล้วไม่ว่าใครก็สามารถเข้าใช้บริการได้ แต่เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดอาจเหมาะกับกลุ่มคนเหล่านี้ 

  • คนไข้ที่มีภาวะโลหิตจาง 
  • คนไข้ที่มีปัญหาแผลกดทับเรื้อรัง
  • คนไข้ที่มีภาวะติดเชื้อรุนแรง ที่ผิวหนัง หรือเนื้อเยื่อตาย 
  • คนไข้ที่เคยผ่านการปลูกถ่ายผิวหนัง 
  • คนไข้ที่แผลหายช้าจากภาวะ โรคเบาหวาน 
  • คนไข้ที่มีภาวรหูตึง หรือหูดับ 
  • คนไข้ที่ได้รับบาดเจ็บจากกลายฉายรังสี 
  • คนไข้ที่มีอาการหอบ หรือหายใจได้ลำบาก จากปริมาณออกซิเจนน้อย 
  • คนไข้ที่มีปัญหาปวดหัวง่าย หรือเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
  • คนไข้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ 
  • คนไข้ที่ผ่าตัดศัลยกรรม หรือทำหัตถการแล้วมีแผลบวมช้ำ 

ที่กล่าวมาเป็นเพียงผลลัพธ์เบื้องต้นที่ช่วยในการรักษาโดยเครื่อง  hyperbaric oxgen therapy (HBOT)