เสริมคางแผลใน เทคนิคซ่อนแผล ตัวช่วยเสริมคางยอดนิยม

เสริมคางแผลใน เทคนิคซ่อนแผล ตัวช่วยเสริมคางยอดนิยม

“เสริมคางแผลใน” เป็นเทคนิคเสริมคางที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นเทคนิคซ่อนแผลที่จะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้บนใบหน้า บวมช้ำน้อย และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน ช่วยแก้ปัญหากวนใจที่ส่งผลต่อความมั่นใจของของใครหลายคน อย่างปัญหาใบหน้าไม่เข้ารูป รวมถึงปัญหาคางต่าง ๆ เช่น คางสั้น, คางตัด, คางบุ๋ม คืนความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง ในบทความนี้จึงจะมาแนะนำเทคนิคเสริมคางแผลใน ไม่ว่าจะเป็นการเสริมคางแผลในเหมาะกับใคร มีข้อห้ามอะไรบ้าง และมีวิธีดูแลอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

เสริมคางแผลใน คืออะไร

เสริมคางแผลใน คืออะไร

เสริมคางแผลใน (Intraoral incision) เป็นการเปิดแผลจากด้านในช่องปาก  บริเวณริมฝีปากล่างกับซอกเหงือก โดยจะมีขนาดแผลประมาณ 1.5 – 2 เซนติเมตร และทำการแยกเยื่อหุ้มกระดูกคางบริเวณขอบล่างออกมา เพื่อนำซิลิโคนที่ผ่านการตกแต่งจนเหมาะกับคนไข้แต่ละคนใส่เข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการ และเย็บแผลด้วยไหมละลาย 

สำหรับข้อดีของการเสริมคางแผลใน คือจะทำให้ไม่เสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น, ไม่จำเป็นต้องตัดไหม, มีรูปทรงสวยเป็นธรรมชาติ, ซิลิโคนเคลื่อนได้ยาก และสามารถแก้ปัญหาคางได้อย่างตรงจุด อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของการเสริมคางแผลใน คือดูแลรักษาแผลได้ยาก และมีโอกาสติดเชื้อจากน้ำลาย จนทำให้มีแผลคีลอยด์ อีกทั้งในช่วงแรกจะรับประทานอาหารได้ยาก

เสริมคางแผลใน เหมาะกับใคร

เสริมคางแผลใน เหมาะกับใคร

จุดเด่นของการเสริมคางแผลใน คือจะซ่อนแผลเอาไว้ในช่องปาก และไม่เสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น ดังนั้นเทคนิคนี้จึงเหมาะกับ “คนที่ไม่ต้องการมีแผลเป็นบริเวณใต้คาง” นอกจากนี้การเสริมคางแผลในก็เหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปคางให้เหมาะกับใบหน้า และทำให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเลือกเทคนิคเสริมคาง แพทย์จะประเมินตามปัญหาของคนไข้ และความเหมาะสม เพื่อเลือกเทคนิคเสริมคางที่ทำให้ได้รับผลลัพธ์ตรงตามความต้องการมากที่สุด

ปรึกษาหมอฟรี
ข้อห้ามหลังเสริมคางแผลใน

ข้อห้ามหลังเสริมคางแผลใน

ข้อห้ามหลังการเสริมคางแผลใน จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเสริมคาง โดยข้อห้ามที่ไม่ควรปฏิบัติ มีดังนี้

  • งดอาหารหมักดองและอาหารแสลง: ในช่วง 1 เดือนแรก ควรงดอาหารหมักดองและอาหารแสลง เนื่องจากอาหารประเภทนี้จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบได้ง่าย ทั้งยังส่งผลให้แผลหายช้าอีกด้วย
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: ควรงดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 เดือน เนื่องจากจะกระตุ้นให้แผลอักเสบ หายช้า รวมถึงมีโอกาสติดเชื้อได้
  • งดสูบบุหรี่: ควรงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 เดือน เนื่องจากจะกระตุ้นให้แผลอักเสบ หายช้า และมีโอกาสติดเชื้อ
  • งดออกกำลังกาย: ควรงดออกกำลังกายทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน เนื่องจากจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น และแผลอาจได้รับการกระทบกระเทือน จนเกิดอาการปวด บวม ช้ำ หรืออักเสบได้
  • ไม่ควรละเลยยาที่แพทย์สั่ง: ควรทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นยาฆ่าเชื้อ ยาลดอักเสบ รวมถึงยาชนิดอื่นที่แพทย์จ่ายให้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแทรกซ้อน รวมถึงบรรเทาอาการปวดที่เกิดขึ้น
  • งดเท้าคาง: พฤติกรรมเท้าคาง, กดคาง, ดันคาง หรือสัมผัสคางอย่างรุนแรง อาจทำให้เกิดภาวะซิลิโคนเคลื่อน รวมถึงจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบด้วย แนะนำให้เลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้อย่างน้อย 3 เดือน

วิธีดูแลหลังเสริมคางแผลใน

การดูแลตัวเองหลังเสริมคางแผลใน เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์จากการเสริมคางเป็นไปตามความต้องการ โดยควรดูแลตัวเอง ดังนี้

  • ในช่วง 1-3 วันแรก ควรประคบเย็นอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากยาชาจะเริ่มหมดฤทธิ์ ทำให้มีอาการปวด บวม ช้ำ ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปเอง และในวันที่ 4 แนะนำให้ประคบอุ่น เพื่อช่วยให้อาการบวมยุบลง
  • ในช่วง 1 สัปดาห์แรก แนะนำให้ทานอาหารอ่อน ๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ซุป หรือเต้าหู้อ่อน เพื่อให้เคี้ยวอาหารน้อยที่สุด
  • หลังทานอาหารต้องบ้วนปากทันที เนื่องจากการเสริมคางแผลในจะมีแผลภายในช่องปาก จึงมีโอกาสที่แผลจะติดเชื้อได้ แนะนำให้บ้วนปากด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำเกลือ หลีกเลี่ยงน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้แผลแสบหรืออักเสบได้
  • ควรพักผ่อนให้เพียงพอ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน เนื่องจากในขณะนอนหลับ ร่างกายจะฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
  • แนะนำให้ทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เนื่องจากจะช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อ ทำให้แผลฟื้นฟูได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม อาหารควรผ่านการปรุงสุก และทำให้เคี้ยวได้ง่าย
  • ทานยา และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ในกรณีที่มีอาการผิดปกติใด ๆ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบทันที

เสริมคางแผลในแล้วติดเชื้อ อันตรายอย่างไร

การเสริมคางแผลใน แม้ว่าจะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็มีความเสี่ยงคือหากดูแลตัวเองไม่ดี อาจมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้น จึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการดูแลตัวเอง อีกปัจจัยที่สำคัญในการเสริมคางแผลในคือ “โรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน” เนื่องจากโรงพยาบาลที่มีมาตรฐาน จะมีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ และเครื่องมือที่ทันสมัย มีความสะอาด ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

ปรึกษา เสริมคางแผลใน ที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช

ปรึกษาเสริมคางแผลในที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช

การเสริมคางแผลใน เป็นเทคนิคเสริมคางที่มีข้อดีคือการใช้เทคนิคซ่อนแผล ทำให้แผลบวมช้ำน้อย และใช้ระยะเวลาพักฟื้นไม่นาน โดยทั่วไปภายใน 1 สัปดาห์ จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และไม่กระทบต่อชีวิตประจำวัน สำหรับใครที่สนใจเสริมคางแผลใน โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช มีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ พร้อมด้วยเทคนิคและเครื่องมือที่ครบครัน ได้มาตรฐานโรงพยาบาล มั่นใจได้ว่าจะลดความเสี่ยง และได้รับผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ ในเบื้องต้นสามารถปรึกษาแพทย์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

แชร์เลย:
register