ดึงคอ ศัลยกรรมแก้เหนียง รอยย่นที่คอ
การดึงคอ เป็นการศัลยกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาเหนียง รวมถึงคอเหี่ยว คอย่น ซึ่งเป็นปัญหากวนใจของใครหลายคน โดยเฉพาะคุณผู้หญิง เนื่องจากเมื่ออายุเพิ่มขึ้น จะพบว่าบริเวณลำคอเริ่มมีอาการเหี่ยวย่น ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้ส่งผลร้ายต่อร่างกาย แต่กลับส่งผลในเรื่องของความมั่นใจ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการดึงคอ ในบทความนี้มาสเตอร์พีชจึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการดึงคอมาให้สำหรับใครที่มีข้อสงสัย ไม่ว่าจะเป็นการดึงคอคืออะไร เทคนิคการดึงคอ รวมถึงการดูแลตัวเองก่อนและหลังดึงคอ จะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกันในบทความได้เลย
ศัลยกรรมดึงคอ คืออะไร ?
การดึงคอ (Neck Lift) คือ การแก้ไขปัญหาเหนียง คอเหี่ยว คอย่น ด้วยการผ่าตัด ซึ่งมีการใช้เทคนิคผ่าตัด ร่วมกับเทคโนโลยี ทำให้มีความรวดเร็วและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ในกรณีที่มีปัญหาคอเหี่ยวย่นไม่มาก จะใช้ยาชาเฉพาะจุด ผ่าตัดประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมงก็สามารถกลับบ้านได้ แต่ในกรณีที่มีปัญหาคอเหี่ยวย่นมาก อาจต้องใช้เวลาผ่าตัด 1-2 ชั่วโมง และมีการใช้ยาสลบร่วมด้วย ซึ่งในกรณีนี้จะต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล 1 คืน อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดดึงคอ ควรทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อความปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามความต้องการที่สุด
ศัลยกรรมดึงคอ ช่วยแก้ปัญหาอะไร
ศัลยกรรมดึงคอ ช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังบริเวณลำคอโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นเหนียง คอเหี่ยว คอย่น รวมถึงริ้วรอยต่าง ๆ ที่เกิดบริเวณคอ ซึ่งการศัลยกรรมดึงคอ จะใช้ในกรณีที่ผิวหนังลำคอหย่อนยานเป็นพิเศษ หรือต้องการแก้ไขปัญหาในระยะยาว เพราะผลลัพธ์จากการดึงคอจะทำให้ผิวคอกลับมาตึงกระชับ อย่างไรก็ตาม การดึงคอไม่สามารถหยุดการเสื่อมสภาพผิวตามวัยได้ และสำหรับใครที่ต้องการจะทำซ้ำ จะต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 ปีจึงจะทำได้
อายุเท่าไหร่ ที่จะทำศัลยกรรมดึงคอ
สำหรับการทำศัลยกรรมดึงคอ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ แต่ขึ้นอยู่กับความหย่อนคล้อยของผิวหนัง อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่มักจะใช้บริการดึงคอเมื่ออายุ 40 ขึ้นไป ซึ่งเป็นวัยที่ผิวหนังเริ่มเสื่อมสภาพ
เทคนิคการผ่าตัดดึงคอ มีกี่แบบ +กี่เทคนิค
สำหรับเทคนิคการผ่าตัดดึงคอ สามารถทำได้ 3 รูปแบบ ได้แก่
- รูปแบบที่ 1 การผ่าตัดดึงคอร่วมกับการดึงกล้ามเนื้อคอ (platisma) โดยใช้แผลที่บริเวณหน้าหูถึงหลังหู
- รูปแบบที่ 2 การผ่าตัดดึงคอร่วมกับการดูดไขมันใต้คาง เทคนิคนี้จะใช้สำหรับผู้ที่มีไขมันใต้คางมาก ซึ่งการดูดไขมันจะช่วยให้รูปร่างของคางดีขึ้น
- รูปแบบที่ 3 ผ่าตัดโดยลงแผลบริเวณใต้คาง และตัดผิวหนังโดยตรง ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดเวลา อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากจะเห็นแผลบริเวณใต้คางชัดที่สุด
ตำแหน่งซ่อนแผลผ่าตัดศัลยกรรมดึงคอ
สำหรับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงคอ มักจะซ่อนแผลไว้บริเวณรอยพับใต้คางหรือหลังหู ทำให้สามารถมองเห็นได้ยาก และช่วยให้คนไข้มีความมั่นใจมากขึ้นหลังจากฟื้นตัว
ความแตกต่างระหว่างผ่าตัดดึงหน้ากับผ่าตัดดึงคอ
การผ่าตัดดึงหน้าและดึงคอ มีความคล้ายคลึงกัน และมักจะทำร่วมกัน เนื่องจากการดึงคอถือเป็นส่วนหนึ่งของการดึงหน้า อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่คนไข้มีปัญหาผิวหนังแค่บริเวณลำคอ ก็จะใช้แค่การดึงคอแก้ปัญหาเพียงอย่างเดียว
รีวิวศัลยกรรม ดึงคอ
ศัลยกรรมดึงคอ ราคาเท่าไหร่
สำหรับค่าใช้จ่ายในการศัลยกรรมผ่าตัดดึงคอ มีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล ซึ่งการจะเลือกวิธีรักษาแบบไหนแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม นอกจากนี้ในกรณีที่ใช้ยาสลบจำเป็นจะต้องมีการพักฟื้นที่โรงพยาบาล และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกส่วน
สำหรับใครที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดึงคอ ทีมแพทย์โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชพร้อมให้คำปรึกษาฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ถ้าสนใจเข้ามาปรึกษาสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ช่องทางต่อไปนี้ https://www.masterpiecehospital.com/
ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดดึงคอ
สำหรับการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดดึงคอ ควรมีการเตรียมตัว ดังนี้
- ควรลางานล่วงหน้า 1 สัปดาห์ เพื่อใช้สำหรับพักฟื้น
- งดรับประทานอาหารและดื่มน้ำก่อนผ่าตัด 8 ชั่วโมง
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 เดือนก่อนผ่าตัด
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- ควรสระผมก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพราะหลังผ่าตัดอาจสระผมไม่สะดวก
- งดทานวิตามินและสมุนไพรใด ๆ ก่อนผ่าตัด 2 สัปดาห์
- ควรมีผู้ติดตามมาในวันที่ผ่าตัด เพราะในกรณีที่ไม่ต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล ไม่ควรขับรถเอง
- หากมีโรคประจำตัวหรืออาการผิดปกติใด ๆ เกี่ยวกับการผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบอย่างครบถ้วน
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดศัลยกรรมดึงคอ
สำหรับการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดดึงคอ ถือเป็นส่วนสำคัญ เนื่องจากจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามความต้องการที่สุด โดยมีแนวทางการดูแลตัวเอง ดังนี้
- ดูแลแผลผ่าตัดให้แห้งตลอดเวลา ไม่ควรให้แผลเปียกจนกว่าจะตัดไหม
- ควรนอนหมอนสูง และประคบเย็นเพื่อลดบวมในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
- งดการออกกำลังกาย หรือกิจกรรมใด ๆ ที่กระทบแผลผ่าตัดในช่วง 1 เดือน
- งดการมีเพศสัมพันธ์ 1 เดือนหลังผ่าตัด
- ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน 2 เดือนหลังผ่าตัด
- สามารถล้างหน้า สระผมได้ หลังผ่าตัดผ่านไป 5 วัน
- เช็ดทำความสะอาดแผลสม่ำเสมอ และรับประทานยาตามที่แพทย์แนะนำ
- งดสูบบุหรี่ 1 เดือนหลังผ่าตัด
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- อาการชาหรือบวม เป็นอาการปกติ และจะหายไปเอง 2-4 สัปดาห์หลังการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย
- หลังผ่าตัด 1-3 เดือน ใบหน้าจะกลับสู่สภาพปกติ ควรเข้าพบแพทย์เพื่อติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ และหากมีอาการผิดปกติใด ๆ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบทันที
ความเสี่ยงในการทำศัลยกรรมดึงคอ
ในการทำศัลยกรรมดึงคอ มีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
- มีอาการชาบริเวณคอและแนวกราม
- ในบางกรณีอาจมีรอยแผลเป็น
- มีเลือดออกหรือติดเชื้อ
- การสร้างเม็ดสีที่ไม่พึงประสงค์
- ในบางกรณี ผลผ่าตัดอาจไม่เป็นตามที่คาดหวัง และจำเป็นต้องแก้ไขใหม่
- เส้นประสาทเสียหายหรือเส้นเลือดฉีกขาด
- อาการบวมและฟกช้ำ รวมถึงอาการเจ็บปวดและไม่สบายตัว
- ภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยาสลบ
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงเหล่านี้เกิดขึ้นไม่บ่อยและพบได้น้อยมาก ซึ่งก่อนตัดสินใจทำการผ่าตัดดึงคอ แพทย์จะแจ้งเกี่ยวกับความเสี่ยงและผลข้างเคียงให้คนไข้ทราบอย่างครบถ้วน และเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเหล่านี้ หลังผ่าตัดคนไข้จึงควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ในกรณีที่มีอาการผิดปกติใด ๆ ควรแจ้งแพทย์ทันที
ศัลยกรรมดึงคอ ที่มาสเตอร์พีช ?
สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาเหนียง คอเหี่ยว คอย่น การดึงคออาจเป็นตัวเลือกของคุณในการกำจัดปัญหากวนใจ โดยโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช มีบริการผ่าตัดดึงคอ โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ พร้อมทั้งเทคนิคและเครื่องมือที่ทันสมัย ได้มาตรฐานโรงพยาบาล มั่นใจได้ว่าผลลัพธ์จะออกมาตรงตามความต้องการ และสำหรับใครที่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดึงคอ สามารถปรึกษากับแพทย์ได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถติดต่อสอบถามได้ผ่านช่องทางต่อไปนี้ https://www.masterpiecehospital.com