ออกซิเจนบำบัดคืออะไร

นอนไม่หลับ, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ, มีริ้วรอยบนใบหน้า ปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหากวนใจที่สร้างความรำคาญใจให้แก่ใครหลายคน แต่ในปัจจุบัน มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เรียกว่า ออกซิเจนบำบัด ซึ่งจะช่วยกำจัดปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป ในบทความนี้จะมาพูดถึงออกซิเจนบำบัด ว่าคืออะไร ช่วยอะไรได้บ้าง และจะอันตรายไหม

ออกซิเจนบำบัดคือ
ออกซิเจนบำบัด หรือ Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT) คือการบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง โดยการนำเอาออกซิเจนบริสุทธิ์ 100% เข้าสู่ร่างกายผ่านระบบทางเดินหายใจ ซึ่งผู้ที่รับออกซิเจนบำบัดจะต้องอยู่ในห้องปรับความดันบรรยากาศสูง ภายในห้องจะมีความดันบรรยากาศสูงกว่าปกติ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้น เซลล์รวมถึงเนื้อเยื่อต่าง ๆ จึงได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ รวมถึงทำให้การรักษาโรคต่าง ๆ ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น

ออกซิเจนบำบัดช่วยอะไรได้บ้าง
ออกซิเจนบำบัด เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านต่าง ๆ อย่างหลากหลาย ดังนี้
- ฟื้นฟูกล้ามเนื้อ: สำหรับใครที่ออกกำลังกาย ออกซิเจนบำบัดจะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- ลดการอักเสบ: การเพิ่มปริมาณออกซิเจน จะช่วยลดการอักเสบ รวมถึงอาการปวดบวมต่าง ๆ ด้วย
- บำรุงเส้นผม: ออกซิเจนบำบัดจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยฟื้นฟูเส้นผม และกระตุ้นให้เส้นผมงอกขึ้นใหม่
- ป้องกันการติดเชื้อ: ปริมาณออกซิเจนที่เพิ่มขึ้น จะช่วยกำจัดจุลินทรีย์และแบคทีเรียต่าง ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคได้
- ช่วยให้พักผ่อนได้เต็มที่: สำหรับใครที่มีอาการนอนไม่หลับ ออกซิเจนบำบัดมีส่วนช่วยในการทำให้ร่างกายผ่อนคลาย จากการกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้ทำงานอย่างสมดุล ทำให้ร่างกายพักผ่อนอย่างเต็มที่ รู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้น
- รักษาแผลเรื้อรัง: ออกซิเจนบำบัด มีส่วนช่วยในกระบวนการฟื้นฟูแผล โดยการเพิ่มปริมาณออกซิเจนเข้าสู่เลือดและเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็นแผลเรื้อรัง, แผลไหม้, แผลผ่าตัดทันตกรรม แผลศัลยกรรมเสริมความงาม ไปจนถึงแผลผ่าตัดใหญ่
ดูแลสุขภาพโดยรวม: ออกซิเจนบำบัด ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพผิวและความงาม, มีส่วนช่วยในการลดความเครียด, ชะลอความเสื่อมของร่างกาย รวมไปถึงทำให้สมรรถภาพทางร่างกายและสมองดีขึ้น

ผลข้างเคียงจากการใช้เครื่องออกซิเจนบำบัด
แม้ว่าการใช้เครื่องออกซิเจนบำบัดจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านต่าง ๆ แต่ก็ยังมีผลข้างเคียงบางอย่างที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายได้เช่นเดียวกัน เช่น
- ภาวะออกซิเจนเป็นพิษ: ภาวะออกซิเจนเป็นพิษ เป็นภาวะที่ร่างกายได้รับออกซิเจนมากเกินไป จนส่งผลให้เกิดอาการเวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน หากรุนแรงอาจทำให้กล้ามเนื้อกระตุก หรือเกิดอาการชักได้ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่แพทย์มีประสบการณ์ จะปรับออกซิเจนให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม และลดโอกาสในการเกิดภาวะออกซิเจนเป็นพิษได้
- แรงกดดันจากหูหรือไซนัส: เกิดจากการปรับความดันในห้องบำบัด ทำให้ปริมาณออกซิเจนที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้เจ็บปวดหู หรือมีอาการไซนัสได้ และถ้าหากรุนแรงอาจทำให้ปอดเสียหายได้ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะก่อนจะเข้าเครื่องออกซิเจนบำบัด แพทย์จะตรวจหูและปอดอย่างละเอียด เพื่อป้องกันความเสี่ยง
ถึงแม้ครื่องออกซิเจนบำบัดอาจมีผลข้างเคียง แต่ถ้าหากทำในโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และมีแพทย์ที่มีประสบการณ์ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
การทำออกซิเจนบำบัดอันตรายไหม
โดยทั่วไปออกซิเจนบำบัด ไม่มีความอันตราย แต่อาจมีความเสี่ยงหรือข้อจำกัดในแต่ละบุคคล เช่น กรณีของผู้ป่วยหอบหืด, ผู้ที่มีอาการกลัวที่แคบ, ผู้ที่เป็นหวัด มีอาการหูอื้อ ควรรอให้หายก่อน, ผู้ที่มีอาการป่วยเกี่ยวกับปอด, ผู้ที่ผู้ชั้นกลางอักเสบ, ผู้ที่มีประวัติภาวะหัวใจล้มเหลว รวมถึงการใช้ออกซิเจนมากเกินไป ก็อาจก่อให้เกิดภาวะ Oxygen toxicity ซึ่งมีความอันตรายต่อการหายใจและระบบประสาท แนะนำให้ทำในโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ จะช่วยลดความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี

ทำออกซิเจนบำบัดที่มาสเตอร์พีชดูแลโดยแพทย์
สำหรับใครที่สนใจทำออกซิเจนบำบัด แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะทำที่ไหนดี โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชอาจเป็นคำตอบของคุณ เพราะโรงพยาบาลมาสเตอร์พีชมีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ พร้อมด้วยเครื่องมือที่ครบถ้วน ได้มาตรฐานโรงพยาบาล ราคาออกซิเจนบำบัดอยู่ที่ 4,500 บาท ในเบื้องต้นสามารถเข้าปรึกษาแพทย์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย