เป็นแผลที่อวัยวะเพศชายรักษาอย่างไร เกิดขึ้นเพราะอะไรได้บ้าง

เชื่อว่าหนึ่งในสิ่งที่คุณผู้ชายหลายคนกังวลและไม่อยากให้เกิดขึ้น คงหนีไม่พ้น “เป็นแผลที่อวัยวะเพศชาย” เนื่องจากอวัยวะเพศชายเป็นจุดที่สำคัญและบอบบาง ในบทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแผลที่อวัยวะเพศชาย ว่าเกิดจากอะไรได้บ้าง จะสามารถป้องกันหรือรักษาได้อย่างไร และขลิบไร้เลือดจะช่วยได้ไหม บทความนี้มีคำตอบ

เป็นแผลที่อวัยวะเพศชาย

เนื่องจากอวัยวะเพศชายเป็นส่วนที่บอบบาง และไวต่อการบาดเจ็บ ในกรณีที่ไม่ระมัดระวังจะทำให้เป็นแผลที่อวัยวะเพศชายได้ โดยแผลที่อวัยวะเพศชายจะมีอาการแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสาเหตุ เช่น คัน, แสบร้อน, ปวด, บวม แดง, เจ็บขณะปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์ ในกรณีที่รุนแรงกว่านั้นอาจมีแผลฉีกขาด เลือดออก รวมถึงมีหนองหรือของเหลวร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีแผลที่อวัยวะเพศชายอาจไม่มีอาการเจ็บปวด แต่มีลักษณะอื่น ๆ เช่น เป็นแผลเปื่อยแข็ง ๆ ดังนั้น หากเป็นแผลที่อวัยวะเพศชาย แนะนำให้เข้าพบแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ และเข้ารับการรักษาที่เหมาะสม

แผลที่อวัยวะเพศชายเกิดจากอะไรได้บ้าง

แผลที่อวัยวะเพศชาย สามารถเกิดขึ้นได้จากสาเหตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ ปัญหาสุขภาพ รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนี้

น้องชายเป็นแผลจากการใช้ชีวิตประจำวัน

พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น สวมใส่กางเกงรัดรูปเกินไป, เล่นกีฬาที่มีการปะทะรุนแรง, ใช้ Sex Toy อย่างไม่ระมัดระวัง, มีเหงื่อออกง่าย, แพ้ผลิตภัณฑ์บางประเภท รวมไปถึงการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นแผลที่อวัยวะเพศชายได้

น้องชายเป็นแผลจากโรคทางเพศสัมพันธ์

นอกจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน โรคทางเพศสัมพันธ์ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เป็นแผลที่อวัยวะเพศชายได้ เช่น

โรคแผลริมอ่อน

โรคแผลริมอ่อน (Chancroid) เป็นโรคทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งทำให้เกิดแผลเปื่อยบริเวณอวัยวะเพศชาย รวมถึงอาจมีเลือดหรือของเหลวออกมาจากแผล ก่อให้เกิดอาการแสบร้อน นอกจากนี้โรคแผลริมอ่อน ยังสามารถแพร่ไปยังคู่นอนได้ จึงควรรับการรักษาอย่างเหมาะสม

โรคแผลกามโรคเรื้อรังบริเวณขาหนีบ

โรคแผลกามโรคเรื้อรั้งบริเวณขาหนีบ (Granuloma Inguinale) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มักจะพบในประเทศโซนร้อน เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดเป็นก้อนนูน ๆ และค่อย ๆ ปริแตกเป็นแผลบริเวณโคนขาหนีบและอวัยวะเพศ โดยแผลกามโรคเรื้อรัง ไม่สามารถหายเองได้ จึงจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อรับการรักษา

โรคซิฟิลิส

โรคซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในประเทศไทย โดยมีอาการคือมีตุ่มเล็ก ๆ และมีแผลน้ำเหลือง รวมถึงอาจมีผื่นขึ้นบริเวณมือ เท้า จนไปถึงอวัยวะเพศและทวารหนัก โดยส่วนใหญ่จะมีอาการไข้ร่วมด้วย หากปล่อยทิ้งไว้ในระยะยาวอาจส่งผลให้แบคทีเรียทำลายสมองและอวัยวะสำคัญในร่างกายได้ ดังนั้น หากใครสงสัยว่าเป็นโรคซิฟิลิสจึงควรเข้าพบแพทย์ทันที

โรคหูดหงอนไก่

โรคหูดหงอนไก่ (Genital Warts) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่ทำให้มีติ่งคล้ายเนื้องอกบริเวณใต้หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ เส้นสองสลึง รูเปิดท่อปัสสาวะ ไปจนถึงทวารหนัก ซึ่งจะก่อให้เกิดอาการคัน แสบ และปวด ในบางกรณีอาจมีเลือดออกร่วมด้วย

โรคฝีมะม่วง

โรคฝีมะม่วง (Lymphogranuloma Venereum : LGV) เป็นโรคที่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ โดยจะทำให้มีแผลถลอกบริเวณปลายองคชาต ส่งผลให้มีอาการแสบขณะปัสสาวะ ในกรณีที่ปล่อยทิ้งไว้ในระยะยาวอาจทำให้ติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดได้

เป็นแผลที่อวัยวะเพศชายรักษายังไง

สำหรับใครที่เป็นแผลที่อวัยวะเพศชาย แนะนำให้เข้าพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้แพทย์ประเมินปัญหา วินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง และรับการรักษาอย่างเหมาะสม เนื่องจากการซื้อยามาทาน หรือรักษาด้วยตัวเอง อาจทำให้เกิดความเสี่ยงและผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมาได้

การป้องกันโรคติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์

สำหรับแนวทางการป้องกันโรคติดต่อจากเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นแผลที่อวัยวะเพศชาย สามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดังนี้

• ทำความสะอาดอวัยวะเพศชายอย่างสม่ำเสมอ และทำอย่างถูกวิธี
• มีการป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
• งดการสัมผัสอย่างรุนแรง แกะหรือเกาอวัยวะเพศ เพราะอาจทำให้เกิดแผลได้
• สวมใส่กางเกงที่สบาย ไม่อึดอัด
• หมั่นตรวจเช็กสุขภาพทางเพศอย่างสม่ำเสมอ
• หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรค และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
• ในกรณีที่มีโรคติดต่อทางเพศ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
• มีการขลิบปลายเพื่อทำให้รักษาความสะอาดได้ง่ายขึ้น

ความสะอาดก็สำคัญการขลิบปลายก็ช่วยได้

สำหรับใครที่กังวลเกี่ยวกับการเป็นแผลที่อวัยวะเพศชาย แนะนำให้ทำความสะอาดอวัยวะเพศอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย และถ้าพูดถึงความสะอาด การขลิบปลายอาจเป็นตัวเลือกของคุณ เนื่องจากจะช่วยรักษาความสะอาดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งในปัจจุบัน ยังมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เรียกว่าขลิบไร้เลือด ซึ่งใช้ระยะเวลาไม่นาน ไม่เสียเลือด แผลหายเร็วกว่าปกติ แผลสวยและไม่มีรอยเย็บ สำหรับใครที่สนใจขลิบไร้เลือด ในเบื้องต้นทีมแพทย์โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชพร้อมให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย