ดูแลกายใจคุณแม่หลังคลอด คู่มือรับมือการเปลี่ยนแปลงร่างกายและจิตใจ

คุณแม่หลังคลอดส่วนใหญ่มักมีร่างกายที่อ่อนแอกว่าปกติ เป็นผลกระทบมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพจิตใจ และฮอร์โมน หรือที่เรียกว่าภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ซึ่งมีคุณแม่มือใหม่อีกหลายคนที่ไม่รู้วิธีการเตรียมตัวที่ถูกต้อง บทความนี้จึงอยากมาแนะนำเกี่ยวกับคู่มือการดูแลหลังคลอดแบบถูกวิธี เพื่อเสริมสร้างร่างกาย และจิตใจให้แข็งแรง

ร่างกายคุณแม่หลังคลอด: การเปลี่ยนแปลงที่ไม่ควรมองข้าม
ภาวะการเปลี่ยนแปลงหลังคลอด ในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังคลอดบุตร สามารถส่งผลต่อร่างกายคุณแม่ได้หลายรูปแบบ ซึ่งมีสิ่งที่คุณแม่มือใหม่ไม่ควรมองข้ามว่าร่างกายหลังคลอดนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
- เต้านม
อาการคัดเต้านม ตึงแข็ง หรือเจ็บปวด ทำให้รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว เป็นภาวะปกติหลัง คลอดบุตร เป็นผลมาจากเต้านมจุน้ำนมเต็มแล้ว แต่ไม่ถูกระบายออก จนทำให้เกิดแรงดันภายใน แนะนำให้ประคบอุ่นประมาณ 1 นาที หรือนวดคลึงบริเวณหัวนม เพื่อลดอาการปวดตึง รวมถึงคอยให้นมบุตรทุก ๆ 2 – 3 ชั่วโมง หรือใช้เครื่องปั้มนม เพื่อระบายน้ำนมออกให้ได้มากที่สุด
- ผมร่วง
อาการผมร่วงหลังคลอด เป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อาจทำให้ผมร่วงมากกว่าปกติ แต่อาการดังกล่าวจะสามารถหายไปได้เองหลังผ่านไปแล้ว 6 – 12 เดือน หรือขึ้นอยู่กับการดูแลหลังคลอดของแต่ละบุคคล
- ท้องผูก
อาการท้องผูก อาจมีผลมาจากการเจ็บแผลผ่าตัดหลังคลอดบุตร ซึ่งทำให้รู้สึกไม่อยากขับถ่าย แนะนำให้เน้นการกินอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช หรือดื่มน้ำเปล่าให้มาก ๆ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญในเรื่องการขับถ่ายให้ทำงานได้ดีขึ้น
- กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือปัสสาวะเล็ด เป็นผลมาจากกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานเกิดการขยายตัว ในกรณีที่คลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาติ หรือใช้เวลาในการคลอดนาน เมื่อรู้สึกปวดปัสสาวะจะไม่สามารถกลั้นไว้ได้ รวมถึงการไอ, จาม, หัวเราะ ก็อาจทำให้ปัสสาวะเล็ดได้ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะอาการดังกล่าวสามารถหายได้เองภายใน 3 เดือน สำหรับคุณแม่ที่อยากรักษาอาการให้หายโดยเร็ว อาจเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์โดยตรง และเข้ารับทำหัตถการเก้าอี้ Emsella เพื่อกระตุ้นอุ้งเชิงกรานให้แข็งแรง ป้องกันอาการปัสสาวะเล็ด
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทำรีแพร์ มินิรีแพร์ เก้าอี้ Emsella ได้ที่นี่ https://www.ladymasterpiece.com

อาการยอดฮิตหลังคลอด: สัญญาณเตือนที่ต้องใส่ใจ
การรักษาสุขภาพหลังคลอดเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับคุณแม่ทุกคน ยิ่งช่วงหลังคลอดร่างกายจะมีสัญญาณเตือนบอกเป็นอาการหลังคลอดต่าง ๆ รวมถึงปัญหาหลังคลอดที่ควรใส่ใจดังต่อไปนี้
- การคลอดด้วยวิธีธรรมชาติอาจส่งผลทำให้มีอาการเจ็บปวดแผลบริเวณฝีเย็บ
- มีภาวะไข้ขึ้นสูงกว่า 38 องศา อาจเป็นผลมาจากการติดเชื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน หรือจุดซ่อนเร้น
- มีอาการซึมเศร้า มักเกิดขึ้นกับคุณแม่มือใหม่โดยไม่ทราบสาเหตุ สามารถหายไปได้เองเมื่อผ่านไปแล้ว 2 – 3 วันหลังคลอด
- มีอาการเลือดไหลเป็นระยะบริเวณช่องคลอด อาจเกิดจากอวัยวะเพศฉีกขาดหลัง คลอดแบบปกติ
- มีอาการเจ็บบริเวณแผลผ่าตัด ในกรณีที่ทำการผ่าคลอด เป็นผลมาจากแผลผ่าตัดกำลังสมานตัวจึงเกิดการหดตัวให้รู้สึกเจ็บปวดได้
- อาการกลั้นปัสสาวะเล็ด เกิดได้จากอุ้งเชิงกรานมีการขยายตัว หรือยืดออกมาก ๆ
ดูแลตัวเองอย่างไร? เคล็ดลับฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดฉบับคุณแม่ยุคใหม่
การดูแลหลังคลอดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคุณแม่หลังคลอด เนื่องจากร่างกายจะอยู่ในช่วงที่อ่อนแออย่างมากจึงควรเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อการฟื้นตัวหลังคลอด โดยมีเคล็ดลับง่าย ๆ ดังนี้
- แนะนำให้ประคบร้อน หรือประคบเย็น บริเวณเต้านมเมื่อรู้สึกแน่นตึง เพื่อลดอาการปวดลง
- หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ หรือกดทับแผลผ่าตัด กรณีที่ผ่าตัดคลอด เนื่องจากแผลอาจฉีกขาดได้
- แนะนำให้เข้าพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อเฝ้าดูอาการความผิดปกติ
- หลังคลอดไม่แนะนำให้ใช้ผ้าอนามัยแบบสอด อย่างน้อย 4 – 6 สัปดาห์จนกว่าอาการจะหายเป็นปกติ
- งดการมีเพศสัมพันธ์ หรือทำกิจกรรมที่ส่งผลกระทบกับช่องคลอด
- ควรเช็ดทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ ไม่ควรปล่อยให้เปียกชื้น เนื่องจากมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย
- แนะนำให้รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ
- หากพบว่ามีอาการผิดปกติ ให้รีบไปหาแพทย์โดยด่วน

โภชนาการสำคัญไฉน? อาหารบำรุงคุณแม่หลังคลอดเพื่อสุขภาพที่ดี
โภชนาการหลังคลอดเป็นสิ่งที่จำเป็นในการบำรุงร่างกายของคุณแม่เพื่อให้สุขภาพหลังคลอดแข็งแรง ป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ โดยมีอาหารหลังคลอดที่ควรรับประทาน และหลีกเลี่ยงดังต่อไปนี้
อาหารที่ห้ามรับประทานหลังคลอด
- อาหารกึ่งดิบกึ่งสุก เนื่องจากอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อน อาจส่งผลทำให้อาหารเป็นพิษ หรือเป็นโรคอุจจาระร่วงได้
- อาหารหมักดอง จะส่งผลทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย
- แอลกอฮอล์ ไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย และไม่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพหลังคลอด
- อาหารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ หรืออยากอาเจียน เช่น นม ถั่ว และอาหารทะเล
- อาหารที่มีรสจัด อาจทำให้ท้องไส้ปั่นปวนจึงไม่เหมาะกับคุณแม่หลังคลอด
- เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา หรือน้ำอัดลม
อาหารที่ควรรับประทานหลังคลอด
- ไข่ไก่ หรือเนื้อสัตว์ มีโปรตีนที่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอภายในร่างกาย มีพลังงานที่พอเพียงในการช่วยให้ฟื้นฟูตัวได้ดี
- ผัก เป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ผลไม้ มีวิตามินสูง ช่วยบำรุงสุขภาพหลังคลอด และป้องกันการเสื่อมสภาพของอวัยวะต่าง ๆ ได้ดี
- น้ำ ควรดื่มอย่างน้อย 8 – 10 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 2 ลิตร จะช่วยเสริมสร้าง้ำนมให้คุณแม่ และป้องกันอาการท้องผูกได้
- ข้าว แป้ง หรือคาร์โบไฮเดรต เป็นสารอาหารที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย แนะนำให้รับประทานให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

ออกกำลังกายเบาๆ ฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงหลังคลอด
การออกกำลังกายหลังคลอด สามารถทำได้หลังคลอดผ่านไปแล้ว 4 – 6 สัปดาห์ จะช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดได้ดี ซึ่งแพทย์จะแนะนำให้ออกกำลังกายเบา ๆ และไม่ควรหักโหมมากจนเกินไป เพราะอาจส่งผลเสียต่อร่างกายหลังคลอดได้ โดยมีการออกกำลังกายที่เหมาะสมดังนี้
- การเล่นโยคะ จะช่วยกำหนดลมหายใจ และยืดเส้นสายกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ให้ฟื้นฟูได้เต็มที่
- การฝึกขมิบอุ้งเชินกราน จะช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อบริเวณจุดซ่อนเร้น และป้องกันภาวะปัสสาวะเล็ด
- การเดินช้า อย่างน้อยวันละ 10 – 15 นาที จะช่วยกระตุ้นระบบการทำงานภายในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับคุณแม่ที่ต้องออกกำลังกายเพื่อฟิตหุ่น แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ก่อน เพื่อตรวจเช็คความพร้อมของร่างกาย
ภาวะแทรกซ้อนหลังคลอด: สิ่งที่คุณแม่ควรรู้และรับมือ
ภาวะแทรกซ้อนหลังคลอด เป็นปัญหาสุขภาพหลังคลอดอย่างหนึ่งที่คุณแม่มือใหม่ควรรู้ และศึกษาข้อมูลแบบละเอียด เพราะเป็นผลกระทบโดยตรงต่อตัวบุคคล รวมถึงภาวะฉุกเฉินหลังคลอดต่าง ๆ ที่ควรเฝ้าระวัง มีอะไรบ้างไปดูกัน
- ภาวะเลือดออกจากปากมดลูกมากเกินไป
- ภาวะติดเชื้อบริเวณจุดซ่อนเร้น
- ภาวะแทรกซ้อนบริเวณเต้านม เช่น เต้านมคัด, เต้านมอักเสบ,
- ภาวะปัสสาวะเล็ดหลังคลอดบุตร
- ภาวะผิดปกติทางจิตใจ เช่น โรคซึมเศร้า, มีอาการโรคจิต เป็นต้น
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
สรุป
อย่างที่คุณแม่หลังคลอดทราบกันดีว่าการดูแลสุขภาพหลังคลอด รวมถึงการดูแลภาวะทางจิตใจเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน หรืออาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น โดยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ที่เข้ารับคำปรึกษาอย่างเคร่งครัด เกี่ยวกับวิธีการดูแลตัวเองหลังคลอด การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการออกกำลังกายที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงหลังคลอด สำหรับคุณแม่ท่านใดที่กำลังเผชิญปัญหาปัสสาวะเล็ดหลัง คลอด หรือช่องคลอดหลวม สามารถสอบถามข้อมูลการทำรีแพร์ มินิรีแพร์ เก้าอี้Emsella เพิ่มเติมได้ที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช https://www.masterpiecehospital.com