ซิลิโคนหน้าอกแตก รั่ว หลังทำศัลยกรรมหน้าอก?

หลังศัลยกรรมหน้าอกปรับสัดส่วน เสริมความมั่นใจให้กับรูปร่างแล้ว คุณผู้หญิงไม่ควรมองข้ามอาการ หรือความผิดปกติต่าง ๆ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหา ซิลิโคนหน้าอกแตก, ซิลิโคนรั่ว, ซิลิโคนเคลื่อน บทความนี้จะพาทุกท่านไปไขข้อสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุที่แท้จริงว่าซิลิโคนแตกได้ยังไง? อันตรายไหม? และมีวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง

สาเหตุซิลิโคนแตก รั่ว อันตรายไหม

ซิลิโคนหน้าอกแตก ซิลิโคนเคลื่อน หรือซิลิโคนรั่ว เกิดได้จากหลายปัจจัย หากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ อาจอันตรายถึงชีวิตได้ โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ซิลิโคนแตกมีดังต่อไปนี้

• ซิลิโคนเสื่อมสภาพ

การศัลยกรรมหน้าอกแม้จะมีความแข็งแรง ทนทาน แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็สามารถเสื่อมสภาพลงได้ โดยอายุการใช้งานของซิลิโคนหน้าอกจะอยู่ที่ระหว่าง 10 – 20 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัสดุที่นำมาใช้เสริมหน้าอก

• มาตรฐานซิลิโคน

มาตรฐานซิลิโคนเป็นสิ่งสำคัญ วัสดุต้องมีคุณภาพแข็งแรงทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิสูง – ต่ำ เพื่อลดโอกาสซิลิโคนรั่ว ซิลิโคนแตกได้ยากมากขึ้น

• ขนาดซิลิโคนไม่เหมาะสม

ขนาดของซิลิโคนที่เสริมเมื่อเปรียบเทียบกับเนื้อเยื่อหน้าอกเดิม ควรเหมาะสมกัน หากศัลยกรรมหน้าอกใหญ่เกินไป อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก และอาจทำให้เกิดพังผืดรัดตัวจนนมแข็งไม่เป็นธรรมชาติ

• ได้รับอุบัติเหตุ

หากได้รับบาดเจ็บ หรือถูกกระแทกด้วยของแข็งแรง ๆ บริเวณหน้าอก อาจส่งผลทำให้ซิลิโคนแตก หรือรั่วได้

• แพทย์ไม่มีประสบการณ์

ประสบการณณ์ของแพทย์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลทำให้ซิลิโคนแตก ซิลิโคนรั่ว หรือซิลิโคนเคลื่อนได้ เนื่องจากแพทย์ที่ขาดประสบการณ์อาจเลือกใช้ขนาดของซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม รวมถึงกำหนดจุดในการศัลยกรรมหน้าอกผิดตำแหน่งนั่นเอง

ก่อนตัดสินใจศัลยกรรมหน้าอก อยากแนะนำให้คุณผู้หญิงศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อลดความเสี่ยง และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ได้ที่นี่ https://www.masterpiecehospital.com/appointment

สัญญาณอะไรบ้าง ที่เตือนซิลิโคนหน้าอกแตกหรือรั่ว ?

สำหรับคุณผู้หญิงที่กำลังสงสัยว่าซิลิโคนหน้าอกแตก หรือรั่วต้องสังเกตจากยังไง เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้เป็นอันตรายร้ายแรง จึงได้รวบรวมสัญญานเตือน และอาการต่าง ๆ ไว้ดังนี้

• มีอาการปวด บวมแดง รู้สึกแน่นหรืออึดอัดบริเวณหน้าอก
• มีอาการชา หรือหน้าอกไวต่อความรู้สึกจนผิดปกติ
• หน้าอกเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น ขนาดไม่เท่ากัน หรือมีรูปร่างเล็กลง
• หน้าอกแข็ง หรือเต้านมมีก้อนแข็ง ๆ เวลาสัมผัส เป็นผลจากพังผืดเกาะรอบซิลิโคน
• เกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อจนทำให้รู้สึกเจ็บปวด หายใจไม่ออกบริเวณหน้าอก
• บริเวณรอบ ๆ หน้าอกมีริ้วรอย รอบย่น เป็นคลื่น หรือผิวหนังหย่อนยาน เวลาสัมผัสแล้วขรุขระ ไม่เรียบเนียน

วิธีป้องกันซิลิโคนหน้าอกแตกรั่ว

วิธีการรับมือปัญหาซิลิโคนหน้าอก จะอยู่ในส่วนของการดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมหน้าอก เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเป็นการป้องกัน และลดโอกาสเสี่ยงซิลิโคนแตก ซิลิโคนรั่วได้อีกด้วย โดยมีวิธีป้องกันที่เหมาะสมดังต่อไปนี้

• เลือกขนาดซิลิโคนที่เหมาะสมกับร่างกาย ไม่ใหญ่มากจนเกินไป จะลดโอกาสซิลิโคนหน้าอกแตก รั่วได้
• เลือกใช้ซิลิโคนที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานผ่านการรับรองจาก FDA
• เข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น
• เข้ารับการตรวจเช็กสุขภาพหน้าอกประจำเป็นระยะ เพื่อเฝ้าสังเกตความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น
• หลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่าง ๆ ที่หน้าอกจะได้รับอุบัติเหตุ หรือถูกกระแทกด้วยความรุนแรงจากขับรถยนต์, ตกจากที่สูง, หรือหกล้มหน้าคว่ำ
• หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก เนื่องจากอาจถูกกระทบกระเทือน หรือเกิดการอักเสบได้ง่าย
• หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงบริเวณหน้าอก เช่น บีบ จับ กด ทับ กัด เป็นต้น
• เลือกใช้ชุดชั้นในที่เหมาะสมกับรูปร่าง หรือขนาดหน้าอก

สรุป

ซิลิโคนหน้าอกแตก ซิลิโคนรั่ว ซิลิโคนเคลื่อน เป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปในกลุ่มผู้ที่ใช้งานเป็นเวลานานมากกว่า 10 ปี รวมถึงแพทย์ขาดประสบการณ์ และคุณภาพของวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน ข้อควรระวังก่อนศัลยกรรมหน้าอก คนไข้ควรเช็กประวัติของสถานพยาบาล ประสบการณ์ของแพทย์ และคุณภาพของซิลิโคนก่อนตัดสินใจทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยง หรืออันตรายที่อาจเกิดภายหลัง สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชัน รีวิวแก้หน้าอก เสริมหน้าอก วิธีการดูแลหลังศัลยกรรมหน้าอกได้ที่นี่ https://www.masterpiecehospital.com