ลบรอยสักด้วยเลเซอร์: วิธีที่มีประสิทธิภาพและเหมาะกับคุณในปี 2025

ในปัจจุบันรอยสักเป็นศิลปะบนเรือนร่างที่ได้รับความนิยมอย่างมาก อย่างไรก็ตาม รอยสักอาจไม่เหมาะกับสายงานบางอาชีพ ทำให้หลายคนมองหาวิธีลบรอยสัก ในบทความนี้ จะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการลบรอยสัก ไม่ว่าจะเป็นวิธีการลบรอยสักมีอะไรบ้าง มีค่าใช้จ่ายเท่าไร ลบรอยสักเจ็บไหม การดูแลหลังลบรอยสัก ข้อแตกต่างลบรอยสักสีกับลบรอยสักขาวดำ บทความนี้มีคำตอบ

วิธีการลบรอยสักมีอะไรบ้าง?

การลบรอยสัก ในอดีตสามารถทำได้เพียงทำให้รอยสักจางลง จนใกล้เคียงกับสีของผิวหนัง แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีหลากหลายเทคนิคที่ช่วยลบรอยสักได้ ดังนี้

• การใช้ครีมลบรอยสัก (Tattoo Removal Cream)

ครีมลบรอยสัก เป็นหนึ่งในแนวทางการลบรอยสักเบื้องต้น ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากราคาถูก และใช้งานได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ครีมลบรอยสักทำได้เพียงให้รอยสักจางลงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ไม่ได้ช่วยให้รอยสักหายไป

• การฉีดสารเข้าไปในผิวหนัง (Subcutaneous Injections of Solutions)

การฉีดสารเข้าไปในผิวหนัง ส่วนใหญ่จะฉีดสารไกลโคลิค เพื่อให้เกิดการทำปฏิกิริยากับหมึกของรอยสัก ซึ่งวิธีนี้จะส่งผลกระทบต่อผิวหนังชั้นในและชั้นนอก ทำให้เกิดรอยไหม้และรอยแผลเป็น อีกทั้งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าหมึกรอยสักถูกกำจัดออกไปทั้งหมดจริง ๆ

• การขูดผิวหนัง (Dermabrasion)

การขูดผิวหนัง จะใช้เครื่องมือขูดผิวหนัง เพื่อให้สีหมึกหลุดออก โดยวิธีนี้จะจำเป็นต้องทำหลายรอบ และเสี่ยงต่อการเกิดรอยแผลเป็น ทั้งยังเป็นวิธีที่เจ็บมากเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ

• ผ่าตัดลบรอยสัก (Skin Excision)

การผ่าตัดลบรอยสัก เป็นวิธีที่แพทย์จะผ่าตัดเพื่อลอกผิวหนังส่วนที่มีรอยสักออก แล้วเย็บปิด ในกรณีที่รอยสักมีขนาดเล็ก การผ่าตัดลบรอยสักอาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าหากรอยสักมีขนาดใหญ่ อาจไม่เหมาะกับวิธีนี้ เพราะจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นตามขนาดของรอยสัก

• เลเซอร์ลบรอยสัก (Laser Tattoo Removal)

เลเซอร์ลบรอยสัก เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากเป็นเทคนิคที่มีประสิทธิภาพและทำได้ง่าย โดยการใช้พลังงานจากแสงเลเซอร์ ทำให้สีหมึกกระจายออก กลายเป็นโมเลกุลขนาดเล็กที่ร่างกายสามารถกำจัดออกไปได้ ซึ่งจะช่วยให้รอยสักจางลง และหากทำอย่างต่อเนื่อง จะทำให้รอยสักหายไปในที่สุด

การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ทำงานอย่างไร?

การใช้เลเซอร์ลบรอยสัก จะเป็นการใช้แสงเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูง ปล่อยพลังงานลงไปในชั้นผิวหนังที่มีหมึกสักอยู่ เมื่อหมึกสักในผิวหนังได้รับพลังงานเลเซอร์ จะเกิดการดูดซับพลังงาน ทำให้หมึกกระจายออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ซึ่งร่างกายสามารถกำจัดออกไปได้ โดยร่างกายจะตอบสนอง ทำให้มีอาการบวมแดง เป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังกำจัดหมึกออกไป ซึ่งกระบวนการนี้จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู จึงทำให้ต้องมีการลบรอยสักหลายครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน

ลบรอยสักสีและลบรอยสักขาวดำต่างกันอย่างไร?

การลบรอยสักสีและลบรอยสักขาวดำ มีความแตกต่างกันคือการลบรอยสักขาวดำ สามารถลบได้ง่ายกว่ารอยสักสี เนื่องจากรอยสักขาวดำใช้หมึกสีเดียว ทำให้เลเซอร์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในขณะที่รอยสักสีดูดซับพลังงานจากเลเซอร์ได้แตกต่างกัน บางสีอาจมีความทนทาน ทำให้จำเป็นต้องใช้เลเซอร์เฉพาะ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องรักษาหลายครั้งและใช้ระยะเวลานานกว่าเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน อีกทั้งราคาการลบรอยสักสียังมีราคาสูงกว่าลบรอยสักแบบขาวดำด้วย

ค่าใช้จ่ายลบรอยสักในไทยเท่าไหร่?

ค่าใช้จ่ายในการลบรอยสัก ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ขนาดของรอยสัก โรงพยาบาล จำนวนครั้งที่ทำ การตอบสนองต่อการรักษา ยิ่งรอยสักมีขนาดใหญ่ก็จำเป็นจะต้องลบรอยสักหลายครั้ง ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงควรมีการคำนึงถึงค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบ แนะนำให้เข้าปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แพทย์ประเมินรอยสัก และแจ้งค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน จะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการ

การเตรียมตัวก่อนลบรอยสักที่ถูกต้อง

การเตรียมตัวก่อนลบรอยสัก เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การลบรอยสักเป็นไปอย่างราบรื่น แนะนำให้มีการเตรียมตัว ดังนี้

• ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ โดยแพทย์จะตรวจบริเวณที่จะลบรอยสัก เพื่อประเมินรอยสัก และลักษณะสี เพื่อเลือกเลเซอร์ที่เหมาะสม 
• พักผ่อนให้เพียงพอ
• งดรับประทานยา หรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดออกได้ง่าย อย่างน้อย 1 สัปดาห์
• หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากจะทำให้ผิวหนังอักเสบและไวต่อการรักษาด้วยเลเซอร์
• งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับบริการ

การดูแลผิวหลังการลบรอยสัก

การดูแลตัวเองหลังลบรอยสัก เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลลัพธ์ของการลบรอยสักออกมาตรงตามความต้องการ แนะนำให้มีการดูแลตัวเอง ดังนี้

• หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
• กรณีมีอาการระคายเคือง แสบผิว หรือบวมแดง แนะนำให้ประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการ
• ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือ หรือน้ำสะอาดอย่างเบามือ
• หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือเกาบริเวณที่ลบรอยสัก
• ทานยา และทายา ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ในกรณีที่มีอาการผิดปกติใด ๆ แนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อแก้ไขทันที

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังลบรอยสัก

โดยทั่วไปผลข้างเคียงจากการลบรอยสักจะมีน้อยมาก อาจมีอาการระคายเคืองหรือแสบผิว รวมถึงมีอาการบวมแดง ซึ่งเป็นอาการปกติเนื่องจากผิวหนังได้รับพลังงานจากเลเซอร์ และจะหายไปหลังจากเวลาผ่านไป อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เกาบริเวณแผล หรือไม่ได้ดูแลแผลตามที่แพทย์แนะนำก็อาจทำให้เกิดการอักเสบได้ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อป้องกันรอยแผลเป็น

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

สรุป

ในปัจจุบันสังคมได้เปิดกว้าง ทำให้รอยสักถูกมองเป็นศิลปะบนเรือนร่างที่มีความสวยงาม และมีความหมาย แต่ก็ยังปฏิเสธไม่ได้ว่าบางอาชีพอาจไม่เหมาะกับรอยสัก ทำให้หลายคนมองหาวิธีที่จะลบรอยสัก ซึ่งด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนา ก็ทำให้สามารถลบรอยสักได้ด้วยการใช้เลเซอร์ อย่างไรก็ตาม การลบรอยสัก ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ควบคู่กับการปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ แพทย์จะประเมินรอยสักและออกแบบการลบรอยสักที่เหมาะสมมากที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น รวมถึงได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ