คอเหี่ยว คอย่น คอเป็นชั้น มีวิธีแก้ไหม ?
วันที่อัพเดตล่าสุด: 7 October 2024
ปัญหาคอเหี่ยว คอย่น และมีชั้นไขมันสะสม เป็นเรื่องที่หลายคนกังวลใจ เพราะส่งผลต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจ การมีคอที่ไม่เรียบเนียนและย่น ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยได้ แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ ปัญหานี้มีทางออก ในบทความนี้ เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหาคอเหี่ยว และแนะนำวิธีการดูแลและรักษา เพื่อให้คุณกลับมามีคอที่เรียบเนียน อ่อนเยาว์ และมั่นใจมากขึ้นกัน
คอเหี่ยว คอย่น มีริ้วรอยคืออะไร ?
คอเหี่ยว คอย่น มีริ้วรอย เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ หรือแม้แต่คนวัยกลางคน เนื่องจากเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความเสื่อมของผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณคอ ทำให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นและหย่อนคล้อยลงมา ส่งผลให้เกิดริ้วรอยและรอยย่นบริเวณคอ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความเสื่อมของผิวและวัยที่มากขึ้น โดยคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวเริ่มเสื่อมสลายไปนั่นเอง คอจึงเริ่มเหี่ยวและย่นตามกาลเวลา
คอเหี่ยว คอย่น มีสาเหตุเกิดจากอะไร
ปัญหาคอเหี่ยว คอย่น และคอหย่อนคล้อย เป็นเรื่องที่หลายคนกังวล เพราะส่งผลต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจ สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดปัญหานี้มีดังนี้ค่ะ
- อายุที่เพิ่มขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินน้อยลง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับ ผิวจึงไม่ได้เต่งตึงเหมือนสมัยอายุยังน้อยนั่นเอง
- แสงแดด รังสี UV จากแสงแดดทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น แสงแดดสามารถทำร้ายผิวได้มาก เราสามารถป้องกันแสงแดดได้ด้วยการทาครีมกันแดดที่บริเวณผิวหน้าและลำคอเป็นประจำ
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ฮอร์โมนมีบทบาทสำคัญในการรักษาความอ่อนเยาว์ของผิว เมื่อระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ผิวก็จะเสื่อมสภาพลง เมื่อฮอร์โมนเพศหญิงลดลง ก็ส่งผลโดยตรงต่อโครงสร้างผิวด้วยเช่นกัน
- น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย เนื่องจากสูญเสีย ไขมัน คอลลาเจน และอิลาสตินอย่างรวดเร็ว เมื่อผิวมีการหดตัวอย่างรวดเร็ว จากที่เคยผิวหนังที่มีความเต่งตึงจึงมีความหย่อนคล้อยได้ง่าย
- ท่าทางที่ไม่ถูกต้อง การก้มหน้าใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน สามารถส่งผลต่อกล้ามเนื้อบริเวณลำคอให้อ่อนแอลงได้ ทำให้เกิดริ้วรอยย่นบริเวณลำคอ
- การสูบบุหรี่ นิโคตินในบุหรี่ทำลายคอลลาเจน ทำให้ผิวแห้งกร้าน และผิวเสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งมีโอกาสทำให้คอเหี่ยวย่นได้มากกว่าคนทั่วไป
- การขาดน้ำและการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ การดื่มน้ำไม่เพียงพอทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและเกิดริ้วรอยได้ง่าย นอกจากนี้การนอนหลับไม่เพียงพอทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่ช่วยซ่อมแซมผิวได้ไม่ดีพอ ทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ร่างกายไม่สดชื่น ดูอิดโรย ผิวหมองคล้ำ และเกิดริ้วรอยได้ง่าย
อายุเท่าไหร่ที่จะพบ คอเหี่ยว คอย่น
แม้ว่าปัญหาคอเหี่ยว คอย่น และคอหย่อนคล้อย มักจะเชื่อมโยงกับวัยที่มากขึ้น แต่ความจริงแล้วปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยกลางคน หรือผู้สูงอายุ สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดปัญหานี้คือการที่ผิวหนังบริเวณคอสูญเสียความยืดหยุ่นและคอลลาเจน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ปัญหาคอเหี่ยว คอย่น มักพบบ่อยในช่วงอายุต่าง ดังนี้
- อายุ 20 ปีขึ้นไป ในช่วงนี้เป็นช่วงที่ผิวหนังยังคงมีความยืดหยุ่นอยู่ แต่หากไม่มีการดูแลที่เหมาะสม เช่น การใช้ครีมบำรุงผิวที่เหมาะสมหรือการป้องกันการสัมผัสกับแสงแดดอย่างเหมาะสม อาจทำให้เริ่มมีเครียดหรือคอย่นคล้อย
- อายุ 30 ปีขึ้นไป ในช่วงนี้ผิวหนังเริ่มขาดความยืดหยุ่นมากขึ้น เนื่องจากการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินลดลง ส่งผลให้เกิดคอเหี่ยว คอย่น และคอหย่อนคล้อยได้ง่ายขึ้น เริ่มเกิดริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณคอ
- อายุ 40 ปีขึ้นไป ในช่วงนี้เป็นเวลาที่ผิวเริ่มมีความอ่อนแออย่างมาก ไม่ว่าจะอีลาสตินหรอคอลลาเจนในผิว เริ่มสลายไปตามกาลเวลา ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นลดลงอย่างมาก ทำให้เกิดคอเหี่ยว คอย่น และคอหย่อนคล้อยได้มากขึ้นและสามารถมองเห็นความหย่อนคล้อยได้ชัดเจนในช่วงวัยนี้
ปัญหาคอเหี่ยว ส่งผลเสียหรือไม่?
ปัญหาคอเหี่ยวส่วนใหญ่ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยตรง แต่อาจมีผลกระทบทางจิตใจและสังคม ผู้ที่มีปัญหานี้อาจรู้สึกขาดความมั่นใจในรูปลักษณ์ภายนอก ส่งผลต่อภาพลักษณ์และการเข้าสังคม บางคนอาจรู้สึกว่าตนเองดูแก่กว่าวัย ซึ่งอาจนำไปสู่ความวิตกกังวลหรือภาวะซึมเศร้าได้ แม้จะไม่เป็นอันตรายทางการแพทย์โดยตรง แต่ปัญหาคอเหี่ยวเป็นเรื่องของความงามและความรู้สึกของผู้ประสบปัญหานี้ค่ะ
รักษาคอเหี่ยว คอย่น แก้ยังไงได้บ้าง?
ในปัจจุบันมีวิธีการรักษาและดูแลผิวบริเวณคอให้กลับมาเต่งตึง อ่อนเยาว์ได้หลายวิธี โดยสามารถแบ่งออกเป็นการรักษาด้วยเครื่องมือหรือเทคโนโลยี และการรักษาโดยแพทย์ โดยมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ดังนี้
การรักษาด้วยเครื่องมือหรือเทคโนโลยี
- การยกกระชับผิวหนัง (Skin Tightening) เช่น การใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ (Radiofrequency) หรืออัลตราซาวด์ (Ultrasound) เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่และกระชับผิวหนัง โดยวิธีนี้ใช้พลังงานความร้อนเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ช่วยทำให้ผิวมีความกระชับเต่งตึงขึ้นหลังทำ
- การทำฟิลเลอร์ (Fillers) การฉีดฟิลเลอร์ที่ประกอบด้วยสารเติมเต็ม เช่น ไฮยาลูโรนิกแอซิด เพื่อเติมเต็มในส่วนของผิวหนังที่เหี่ยวและเพิ่มความกระชับ ทำให้ผิวมีความเต่งตึงขึ้นทันทีหลังทำ
การรักษาโดยแพทย์
- การผ่าตัดดึงคอ (Neck Lift Surgery) การผ่าตัดที่ช่วยยกกระชับผิวหนังและกล้ามเนื้อคอที่หย่อนคล้อย ซึ่งเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน แต่มักต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวนานกว่าวิธีอื่น ๆ
ข้อดีการทำศัลยกรรมดึงคอ
ข้อดีของการทำศัลยกรรมดึงคอ (Neck lift Surgery) มีดังนี้
- ผลลัพธ์ที่เห็นชัดเจน สามารถแก้ไขปัญหาคอเหี่ยว คอย่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดกว่าวิธีไม่ผ่าตัดอื่นๆ
- ผลลัพธ์ที่คงทนยาวนาน ผลการรักษาอยู่ได้นานหลายปี 5-10 ปีหรือมากกว่า ต่างจากวิธีการฉีดหรือยกกระชับที่แก้ไขปัญหาได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น
- แก้ไขได้หลายปัญหาในคราวเดียว นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาคอเหี่ยวแล้ว การทำศัลยกรรมดึงคอยังสามารถแก้ไขปัญหาคางสองชั้นจากผิวหนังส่วนเกิน และปรับรูปทรงของคางที่หย่อนคล้อยให้ดูเรียวสวยขึ้นได้อีกด้วย
- เหมาะสำหรับปัญหารุนแรง เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคอเหี่ยวย่นมาก หรือมีผิวหนังหย่อนคล้อยมาก สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกรูปแบบ
- ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ หากทำโดยศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญ จะได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
- ความคุ้มค่าในระยะยาว แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงในครั้งแรก แต่ผลลัพธ์ที่คงทนอาจคุ้มค่ากว่าการทำวิธีอื่นซ้ำ ๆ
- แก้ไขปัญหาได้ลึกถึงโครงสร้าง การทำศัลยกรรมดึงคอสามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของความหย่อนคล้อยและริ้วรอยได้ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุของปัญหาคอเหี่ยว แตกต่างจากการใช้ครีมหรือการฉีดที่เพียงแต่แก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น
การป้องกันปัญหาคอเหี่ยว คอย่น
ปัญหาคอเหี่ยว คอย่น เป็นเรื่องที่หลายคนกังวล เพราะส่งผลต่อความมั่นใจและดูแก่กว่าวัย แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ มีวิธีป้องกันและดูแลคอให้สวยเรียบเนียนได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ดังนี้
- ปกป้องผิวจากแสงแดด แสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 PA+++ ขึ้นไป บริเวณใบหน้าและลำคอทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน
- บำรุงผิวคออย่างสม่ำเสมอ ใช้ครีมบำรุงผิวคอที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน C, E เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และทาครีมในลักษณะย้อนขึ้นจากล่างขึ้นสู่บน เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอย
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้นและดูอ่อนเยาว์
- บริหารกล้ามเนื้อคอ การออกกำลังกายบริเวณคอเป็นประจำ ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและลดเลือนริ้วรอยได้
- นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมเซลล์ผิวได้ดี
- เลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่เป็นตัวทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ทำให้ผิวเหี่ยวย่นเร็วขึ้น
ปรึกษาปัญหา คอเหี่ยว คอย่น ที่มาสเตอร์พีช ?
ปัญหาคอเหี่ยว คอย่น เป็นปัญหาที่เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่สามารถป้องกันและแก้ไขได้หลากหลายวิธีตั้งแต่วิธีที่ไม่ต้องทำการผ่าตัด และวิธีที่ต้องทำการผ่าตัด การจะเลือกวิธีไหนควรให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล โดยที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช มีทีมแพทย์มากประสบการณ์ที่สามารถให้คำแนะนำได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หากเพื่อน ๆ สนใจสามารถเข้ามาปรึกษาก่อนได้